มีเงื่อนงำ! กระบะไล่บี้ ‘น้องเนิส’ ไม่ใช่ของ ‘เสี่ยลภ’ ลั่น อยู่กับผู้ตาย คนสุดท้าย แต่ไม่ได้ฆ่า!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม มีเงื่อนงำ! กระบะไล่บี้ ‘น้องเนิส’ ไม่ใช่ของ ‘เสี่ยลภ’ ลั่น อยู่กับผู้ตาย คนสุดท้าย แต่ไม่ได้ฆ่า!
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายยิง น.ส.นภธร กนกเกษมโสภณ หรือ น้องเนิส อายุ 23 ปี โดยใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. จ่อยิงเสียชีวิตภายในรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ ป้ายแดง ริมถนนเส้นประปา-นาสร้าง อ.เมือง จ.นครปฐม ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานแวดล้อมแล้ว เชื่อว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุยิง น.ส.นภธร คือนายวัลลภ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 36 ปี จึงไปดำเนินการออกหมายจับ ก่อนจะเข้ามอบตัวเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 6 ก.ย.
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 ก.ย. ที่สภ.เมืองนครปฐม พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.คำรณ บุญุเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ได้ร่วมกันสอบปากคำนายวัลลภ ห้วยหงษ์ทอง หรือ เสี่ยลภ อายุ 36 ปี พร้อมทั้งตรวจสอบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ที่นายวัลลภได้นำมามอบให้เจ้าหน้าที่ขณะมอบตัวด้วย
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายวัลลภยังให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหาว่าจะให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังต้องเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป เพราะสิ่งที่จะมัดตัวนายวัลลภได้ คือหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก ทั้งลายนิ้วมือ และดีเอ็นเอ ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนมีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดนายวัลลภได้ จากนั้นจะส่งเรื่องสั่งฟ้องต่อศาล เบื้องต้นพนักงานสอบจะคัดค้านการประกันตัว
"ส่วนสาเหตุที่นายวัลลภออกจากบ้านพักของตนเอง ก็เพราะทราบจากสื่อว่ามีการออกหมายจับ เขาก็หลบหนีอยู่ในพื้นที่นครปฐม ก่อนเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะได้รับแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่สายสืบ ที่รู้ความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ส่วนอาวุธปืนที่นายวัลลภนำมามอบให้เป็นปืนของเขาเอง ไม่มีทะเบียน ขนาด 9 มม. ซึ่งมีขนาดตรงกับที่ใช้ก่อนเหตุฆ่าน้องเนิส ส่วนความสัมพันธ์กับน้องเนิส นายวัลลภยอมรับว่ารู้จักน้องเนิสจริง และคบกันประมาณ 9 เดือนจริง ซึ่งนายวัลลภก็ยอมรับว่าก่อนที่น้องเนิสจะเสียชีวิตก็มีปัญหากัน และยังยอมรับอีกว่า ในคืนวันเกิดเหตุได้อยู่กับน้องเนิสเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิต" รอง ผบ.ตร. กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.คำรณ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่ารถกระบะ ที่พยายามขับแซงรถของน้องเนิส และพยามขับมาใกล้รถของน้องเนิสเพื่อให้รถของผู้ตายจอด เป็นรถกระบะของพี่ชายนายวัลลภ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามพี่ชายของนายวัลลภมาสอบสวนต่อไป
แหล่งข่าวรายงานว่า เสี่ยลภ มีอาการซึมเศร้าอย่างหนักตั้งแต่วันที่ก่อเหตุแม้กระทั่งเมื่อคืนยังให้การลักษณะซึมเศร้า และไม่ค่อยตอบสนองเท่าไหร่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างควบคุมตัวเสี่ยลภ ที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งใน นครปฐมก่อนจะนำตัวส่งให้กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐมต่อไป
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น