เปิดภาพสุดท้ายก่อนน้ำหวานดับ ชี้ “เอ็ม” อาจรอดคดีเพราะครอบครัวไม่ธรรมดา! (คลิป)

เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ สุขเกษม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่ง พล.ต.ต.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู มอบหมายให้เป็นผู้แลสำนวนคดีที่นางสาวหนูกรรณ์ บุญน้อม อายุ 48 ปี มารดาของนางสาววรรณวิสา สำราญ หรือน้องน้ำหวาน ได้เดินทางเข้าพบ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่าบุตรสาวได้เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ หลังเพื่อนชายพามาเที่ยวที่สถานบันเทิง เมื่อคืนวันที่ 19 ก.ค.2561 ขณะตอนกลับรถเกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้จนเป็นเหตุให้น้องน้ำหวานที่นั่งมาด้วยเสียชีวิต ที่ผิดสังเกตุคือกางเกงผู้ตายกลับด้านและไม่ได้รูดซิบ ไม่สวมกางเกงชั้นใน แม่ของผู้เสียชีวิตติดใจในประเด็นน่าจะมีชนวนเหตุมาจากฆาตกรรม ผู้ตายถูกข่มขืนกระทำชำเราหรือไม่ หรือผู้ตายถูกฆ่าแล้ว จัดฉากอำพรางคดี จึงได้เข้ามาร้องเรียนกับมูลนิธิปวีณาฯเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคลี่คลายคดีนี้ใหม่ โดยมีนายพลสันต์ รัตนพลที หรือ เอ็ม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 1 ต.นามะเฟือง อ.เมืองหนองบัวลำภู เพื่อนชายเป็นคนขับ

เปิดภาพสุดท้ายก่อนน้ำหวานดับ ชี้ “เอ็ม” อาจรอดคดีเพราะครอบครัวไม่ธรรมดา! (คลิป)

โดย พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ สุขเกษม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าว่าได้สั่งชุดสืบสวน ลงพื้นที่จำลองเหตุการณ์ ตั้งแต่เริ่มต้นที่ทั้งสองคนเดินทางออกมาจากดื่มสุราดูหมอลำที่ตำบลนามะเฟือง จนได้เข้ามาเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองบัวลำภู จนมาถึงจุดที่ ผู้ต้องหาอ้างว่าได้มีเพศสัมพันธ์กับผู้ตายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง จนถึงจุดที่เกิดอุบัติเหตุ โดยได้ ให้ใช้ที่ตำรวจไปนำ เสื้อผ้าของ เพื่อนชายคือ นายพลสันต์ รัตนพลที หรือ เอ็ม มาตรวจหาคราบอสุจิและดีเอ็นเอ ซึ่งประกอบว่าเหตุได้เกิดมานานแล้ว แต่ยังไงเราก็จะตรวจสอบทุกรายละเอียด เพื่อให้ข้อมูลหลักฐานประจักษ์พยานได้มากที่สุด ส่วนประเด็นที่ว่า น้องน้ำหวานสวมใส่กางเกงกลับด้าน ผู้ต้องหาได้บอกว่าน้องน้ำหวานเป็นคนใส่เอง หลังจากนั้นจึงขับรถออกจากที่เกิดเหตุไปชนต้นไม้ ทำให้น้องน้ำหวาน คอหัก ม้ามแตก หน้าอกกระแทกอย่างแรงจนยุบ ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที่ ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้ง 2 ข้อหา กับนายพลสันต์ รัตนพลที หรือ เอ็ม ตั้งแต่วันแรกคือข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้แยกสำนวนจากสำนวนคดีจราจร มาเป็นสำนวนคดีอาญาโดยข้อหาที่ 2 คือข่มขืนกระทําชําเราหญิงอื่นซึ่งไม่ใช่ภรรยาตนอยู่ในสภาวะที่หลีกเลี่ยงหรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ส่วนพฤติกรรมหลังจากนั้น จะไปดูใน

ล่าสุด รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานจากการลงพื้นที่ตรวจสอบยังจุดที่ นายเอ็ม หรือ นายพลสันต์ รัตนพลที อายุ 39 ปี อ้างว่า ทั้งคู่ได้จอดรถเพื่อมีอะไรกันหลังออกจากสถานบันเทิง พบว่าเป็นเส้นทางที่มืดและเปลี่ยว มีไฟส่องสว่างสลับกับบ้านชาวบ้าน 2 ข้างทาง และตรงโรงเรียนที่นายเอ็ม ให้การสารภาพว่าเป็นจุดที่จอดรถแล้วมีเพศสัมพันธ์กันนั้น พบว่าเป็นจุดที่ค่อนข้างมืด มีเพียงไฟส่องสว่างของอาคารเรียนที่ส่องมาไม่ถึง และเมื่อทดสอบเปิดไฟในห้องโดยสาร พบว่าถ้าไม่มีการสังเกตก็จะไม่เห็นพฤติกรรมใด ๆ ของคนในรถ

ขณะที่บ้านของนายเอ็ม พบว่าเจ้าตัวไม่ได้อยู่บ้าน พบเพียงลุงที่เดินทางมาจาก จ.อุดรธานี หลังนายเอ็มขอให้มาดูแลบ้านให้ และมาดูแลยายที่อายุ 90 ปี ซึ่งก็เปิดเผยว่า นายเอ็มเป็นหลานตน ที่ผ่านมาก็เป็นเด็กดี ดูแลพ่อแม่มาตลอด ไม่มีพิษภัยกับใคร โดยหลังเกิดเรื่องเอ็มไม่ได้กลับบ้านมาร่วม 3 วันแล้ว เขาไม่ได้บอกอะไรไว้ พูดเพียงว่าจะไปดำเนินการเรื่องคดีให้เสร็จสิ้นก่อน

นางจ่อย กล่าวต่อว่า นายเอ็มเป็นลูกหลานของนามสกุลที่มีชื่อเสียงใน จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเดิมแม่ของเอ็มนามสกุลดัง พ่อและแม่อดีตเคยเป็นครู ซึ่งคนในครอบครัวของเอ็ม ส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีชื่อเสียง ลงเล่นการเมืองอีกด้วย นอกจากนี้ ตนเพิ่งทราบข่าวจากเพื่อนบ้านว่า นายเอ็มและพ่อแม่ไม่อยู่บ้าน ส่วนตัวตกใจว่าหายไปไหน และก็ไม่แน่ใจว่าจะหนีหรือไม่ เพราะตนไม่รู้ความคิดจิตใจของเอ็ม ดังนั้นจึงตอบไม่ได้


เปิดภาพสุดท้ายก่อนน้ำหวานดับ ชี้ “เอ็ม” อาจรอดคดีเพราะครอบครัวไม่ธรรมดา! (คลิป)

นอกจากนี้ ทีมข่าวอมรินทร์ได้เดินทางสำรวจตามเส้นทางที่นายเอ็มขับรถยนต์คันเกิดเหตุ พาตัวน้องน้ำหวาน ออกจากสถานบริการในตัวเมืองหนองบัวลำภู โดยตลอดเส้นทางผ่าน จะมืดและเปลี่ยว มีไฟส่องสว่างบางจุด สลับกับมีบ้านประชาชนอยู่ 2 ข้างทาง ทำให้บางจุดสว่าง บางจุดมืด ซึ่งระหว่างทางจะมีโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดที่นายเอ็มสารภาพว่ามาก่อเหตุข่มขืนน้องน้ำหวาน เมื่อลองจอดรถและปิดไฟหน้ารถ พบว่าไฟจากอาคารเรียนไม่สามารถส่องมาเห็นตัวรถได้เลย ประกอบกับนายเอ็มใช้รถคันสีดำ ก็จะทำให้มองไม่เห็นว่าตรงจุดนี้ มีรถจอดอยู่ และเมื่อทดสอบการเปิดไฟในห้องโดยสาร หากเข้ามา สังเกตการณ์ไกลด้วยฟิล์มกระจกสีดำ ก็จะพอเห็นพฤติกรรมภายในรถ แต่ถ้าหากไม่มีการเปิดไฟใดๆจะไม่สามารถมองเห็นภายในตัวรถได้เลย

เปิดภาพสุดท้ายก่อนน้ำหวานดับ ชี้ “เอ็ม” อาจรอดคดีเพราะครอบครัวไม่ธรรมดา! (คลิป)

นายไพรวัน มีลาด อายุ 49 ปี พนักงานภารโรงประจำโรงเรียน บอกว่า โรงเรียนแห่งนี้ มีไฟส่องสว่าง เปิดเพียง5จุด คือตามอาคารเรียน และพระพุทธรูปตรงประตู ซึ่งทุกวันเวลา 19.00 น. ตนเองจะมาเปิดไฟ จากนั้นก็จะออกมาตรวจตราเป็นระยะ ก่อนกลับเข้าบ้านพักหลังโรงเรียนในเวลา 21.00 น. ประกอบกับบางวันก็จะมีครูเวรเข้ามาทำหน้าที่ แต่บางวันก็ไม่มี

นายไพรวัน ยังบอกว่า ปกติโรงเรียนแห่งนี้ก็จะมีเยาวชนและกลุ่มวัยรุ่น เข้ามาใช้พื้นที่ในช่วงตอนกลางคืนเป็นประจำ และบางคืนก็จะมีรถแปลกๆ เข้ามาจอดเป็นบางครั้ง ซึ่งหากตนเองเห็นก็จะเข้ามาดู แต่ส่วนใหญ่ยอมรับว่าจะไม่ค่อยเห็น เพราะบ้านพักของตนเองอยู่หลังอาคารเรียน และหลังจากเกิดเหตุ ตนเองก็เพิ่งทราบในตอนที่นายเอ็มรับสารภาพกับตำรวจ ว่าเข้ามาใช้พื้นที่ในโรงเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนไม่เห็นอะไรผิดสังเกตเลย

อย่างไรก็ตาม นายไพรวัน บอกว่า ขณะนี้ผู้อำนวยการโรงเรียนทราบเรื่องแล้ว และได้สั่งการให้ดำเนินการแก้ไขประตูเปิด-ปิดของโรงเรียนที่เสียอยู่อย่างเร่งด่วน ประกอบกับรอติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มเติม


เปิดภาพสุดท้ายก่อนน้ำหวานดับ ชี้ “เอ็ม” อาจรอดคดีเพราะครอบครัวไม่ธรรมดา! (คลิป)

ชมคลิปวิดิโอ
VVVV
VVV
VV
V





เปิดภาพสุดท้ายก่อนน้ำหวานดับ ชี้ “เอ็ม” อาจรอดคดีเพราะครอบครัวไม่ธรรมดา! (คลิป)


เปิดภาพสุดท้ายก่อนน้ำหวานดับ ชี้ “เอ็ม” อาจรอดคดีเพราะครอบครัวไม่ธรรมดา! (คลิป)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10:33 น. ]
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์