พ่อโดนแย่งลูกแจ้งตร.เอาผิดอดีตเมีย กล่าวหาค้ายาบ้า

จากกรณีที่มีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ไลฟ์สดเหตุการณ์ซึ่งพบว่า ผู้ชายคนหนึ่งโดนจับกดลงกับพื้นโดยตำรวจหลายราย กลางโรงเรียน ท่ามกลางสายตาเด็กๆ ในโรงเรียน ขณะที่ชายคนดังกล่าวตะโกนตลอดเวลาว่า มีสิทธิ์อะไรมาจับมีหมายศาลหรือไม่ พร้อมกับบอกว่า "อย่าเอาลูกผมไปไหน"โดยพบว่าขณะนั้นมีเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งครูกำลังอุ้มได้ร้องไห้อยู่ใกล้ไ ส่วนผู้ชายที่ถูกรวบตัว โดนหิ้วขึ้นรถกระบะไปโรงพัก โดยพบว่า เหตุเกิดจากฝ่ายภรรยาร้องเรียนสิทธิการเลี้ยงดู และเกิดคำถามว่าทางเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่
 
 ความคืบหน้าเมื่อเวลา 21.30น.วันที่ 8 ส.ค ผู้เป็นพ่อซึ่งอยู่ในสภาพใบหน้าบวมปูดตาเขียวช้ำ เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมกับทนายความ เพื่อเข้าพบ พ.ต.อ.จักร์ทิพย์ พาราพันธสกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางละมุง และพ.ต.ท.ดรัณภพ สระทองอยู่ รอง ผกก.ป. เพื่อแจ้งความเอาผิดกับอดีตภรรยาและบิดารวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกล่าวว่า ไม่ได้ติดใจ ในการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เพียงแต่สงสัยว่า ตอนนั้นทำไมไม่มีใครช่วยลูกของตนไว้ ในขณะที่ อดีตภรรยา อุ้มไปโดยที่เด็กไม่เต็มใจ ซึ่งเรื่องนี้ตอนกลับตำรวจได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันแล้ว แต่ที่มาโรงพักในครั้งนี้เพื่อแจ้งความเอาผิดบิดาของอดีตภรรยา พร้อมผู้เกี่ยวข้องผู้ที่ลงมือทำร้ายร่างกายตน จนได้รับบาดเจ็บรวมถึงอดีตภรรยาที่ไปร้องเรียน และให้ข้อมูลเท็จกับทหารว่าตนค้ายาเสพติด จนเป็นสาเหตุของเรื่องนี้ ตนยอมรับว่าในอดีตเมื่อ อายุประมาณ 17-18 ปี เคยมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ตอนนี้ตนอายุ 35 ปีแล้วและมีภาระต้องเลี้ยงดูบุตรถึง 2 คน ตนจะไปทำตัวเหมือนในอดีตได้อย่างไร ขอยืนยันว่าปัจจุบันตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้แล้วและตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินอย่างสุจริต มาโดยตลอด

ในอดีตหลังจากหย่าร้างกับภรรยา ก็ได้มีการพูดคุยทำข้อตกลงเกี่ยวกับการดูแลบุตร ซึ่ง ซึ่งศาลได้ทำสัญญาประนีประนอม โดยระบุว่า ให้มีการดูแลบุตรร่วมกัน แต่ฝ่ายสามีจะต้องชำระค่าเล่าเรียนทั้งหมด ตนจึงนำลูกมาเลี้ยงเอง ที่ผ่านมาอดีตภรรยาเคยพาทั้งตำรวจและทหาร บุกมาแย่งชิงเอาตัวจะเอาตัวลูก ไปอยู่ในความครอบครองแล้วหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ตนเองรักลูกทั้งสองคนมากและเชื่อว่าอดีตภรรยาก็รักลูกเช่นกัน แต่ก็น่าจะมีเหตุผลมากกว่านี้ ไม่น่าจะ ใช้วิธีการนี้เพื่อที่จะนำลูกไป  ทางออกที่ดีของเรื่องนี้ คือ ทั้งสองฝ่ายต้องมาพูดคุยกัน ซึ่งตนก็พร้อมที่จะเจรจา และเชื่อว่าอดีตภรรยาก็รักลูกไม่ต่างไปจากตน

ด้านตำรวจ ยืนยันว่าประชาชนและคนในโลกออนไลน์เข้าใจผิด คิดว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งวันนั้นหลังทหารมาขอกำลังเสริม จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่ใช่จับกุมใครทั้งสิ้น แต่เหตุการณ์คือตำรวจเข้าห้ามปรามหลังฝ่ายหญิงเข้าไปทำร้ายผู้เป็นพ่อ สุดท้ายก็ไม่ได้มีการดำเนินคดีเลย เพราะยังไม่ได้รับการประสานจากทหารที่มาขอกำลังเสริมเกี่ยวกับเรื่องนี้ คงต้องให้ฝ่ายทหารเป็นผู้ชี้แจง

>>>>
Cr:::Arocha Reampong ,dailynews.co.th