นายเอ็มล่ะ?
ไพโรจน์ : "อายเรียกมาคุยที่ร้านเหล้าปั่น หลังจากนั้นขึ้นรถไปด้วยกัน 3 คน มีอาย เอ็ม น้ำหวาน แต่น้ำหวานไม่รู้จักเอ็ม ชวนกันไปที่ร้านบ้านบาวแดง แล้วไปเจอฝน ลูกค้าอีกคนในร้านหลังจากนั้น ฝนกับหวานก็ออกมาที่รถนายเอ็ม โดยนายเอ็มมารอก่อนหน้านี้แล้ว ฝนให้น้ำหวานนั่งเบาะหลัง ตอนนั้นน่าจะเที่ยงคืน ฝนคุยกับเอ็มว่าจะไปตามอายกลับบ้านด้วย ฝนหายไปประมาณ 30 นาที ออกมาอีกที รถคันนี้ออกไปแล้ว เป็นรถเก๋งโตโยต้า หลังจากนั้นพ่อค้าขายไข่ วิ่งรถมา เหมือนเห็นรถเก๋งคันนี้วิ่งแซงขึ้นไป และมีรถกระบะอีกคันแซงอีกทีหนึ่ง เหมือนเป็นทางโค้งและแตะเบรก เขาก็สงสัยว่าแตะเบรกทำไม พ่อค้าขายไข่ก็วิ่งไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นมาเจอรถชนต้นไม้"
เป็นรถสีดำคันนี้?
ไพโรจน์ : "ใช่ครับ เป็นรถนายเอ็มชนต้นไม้ข้างทาง กว่ารถขายไข่จะมาเจอก็ประมาณ 8 กิโล พ่อค้าขายไข่ก็ลงไปดู ปรากฏว่าน้องเสียชีวิตแล้ว หน้าซีดแล้ว เหมือนเสียชีวิตมาแล้ว หลังจากนั้นพ่อค้าขายไข่ก็เดินๆ ดูไม่เห็นใคร เขาก็กลัว เลยเดินออกมา"
ตอนไปเห็นสภาพศพน้องเป็นแบบไหน?
ไพโรจน์ : "น้องนอนเสียชีวิต เบาะเอนนอน หน้าปกติ เลือดเหมือนมีที่แขนข้างขวา คนขับไม่มี"
เขาโทรแจ้งความมั้ย?
ไพโรจน์ : "เขาโทรแจ้งครับ จากนั้น ตร.บอกมีคนโทรมาแล้ว เดี๋ยวไป หลังจากนั้นคนขายไข่ก็ขับรถออกไปเจอนายเอ็ม เดินอยู่ข้างทาง ลักษณะเดินแบบรีบๆ พ่อค้าขายไข่ก็เห็นว่าเกิดอุบัติเหตุ ก็อยากจะช่วยเหลือ เลยขับช้าๆ ให้เขาเรียกเผื่อช่วยเหลือ แต่นายเอ็มไม่ได้เรียกให้ช่วยเหลือ"
คุณปวีณาตั้งข้อสังเกตว่าเอ็มต้องรู้ว่าน้ำหวานเสียชีวิตแล้ว ไม่งั้นจะไม่เดินแบบนี้ ถ้ารู้ว่าเพื่อนเจ็บต้องเรียกรถให้ช่วยก่อน แต่นี่เอ็มรู้ว่าน้ำหวานตาย
ไพโรจน์ : ใช่ครับ
ทางมูลนิธิมาถึงจุดเกิดเหตุแล้วยังไง?
ไพโรจน์ : "มีการถ่ายรูปศพน้องน้ำหวาน จากนั้นก็มีการโทรเรียกญาติ ก็เรียกพี่ชายเขา พี่ชายเลยมาดูที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าทางมูลนิธิบอกว่าศพน้องเสียชีวิตแล้ว ถ้าเอาไปรพ.จะมีค่าใช้จ่ายถ้าเอากลับบ้านเลยจะไม่มีค่าใช้จ่าย"