สืบจากพวงกุญแจ คลี่ฆ่าข่มขืนด.ญ.14 สลดโจ๋วัย14-16คิดสั้น

เพียงไม่ถึงสัปดาห์ตำรวจก็สามารถรวบตัว 6 โจ๋ ที่ลงมือฆ่าข่มขืนด.ญ.แนน อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.2 ร.ร.อยุธยานุสรณ์ เอาไว้ได้สำเร็จ

กระชากหน้ากากคนร้ายเยาว์วัยออกมาให้สังคมได้เห็น!!

คนร้ายแก๊งนี้เป็นเด็กวัยรุ่นบ้านอยู่ละแวกเดียวกับผู้ตาย มีอายุไล่ไปตั้งแต่ 14-16 ปี หลังจนมุมคนร้ายให้การรับสารภาพว่า ทำไปโดยไม่คิดอะไร แค่อยากข่มขืนผู้ตาย เพราะเพื่อนในกลุ่มเคยตามจีบแต่เหยื่อไม่เล่นด้วย เลยไปดักข่มขืนฆ่า

ใจคอโหดเหี้ยมเกินวัย

ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนบ่ายวันที่ 13 ก.ย. พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จว. พระนครศรีอยุธยา นำกำลังตำรวจท้องที่ ประกอบด้วย พ.ต.อ.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผกก.สภ.อ. นครหลวง, พ.ต.ท.ชัยพฤกษ์ ลาภหลาย รองผกก.(ป), พ.ต.ต.ชนิสสร์ กระจ่างเนตร สว.สส., พ.ต.ต.อุดม ศรีอนงค์ สวป. รุดไปชันสูตรพลิกศพน้องแนน ซึ่งถูกฆ่าข่มขืนในสภาพศพลอยคว่ำหน้าอยู่ในบ่อน้ำกลางทุ่งนา หมู่ 2 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง

สภาพศพน้องแนนนอกจากจะถูกกระทำชำเราแล้ว ยังถูกทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยม

คนร้ายใช้พงหญ้าปิดบังอำพรางศพไว้ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน สภาพศพเน่าอืด ตายในชุดเสื้อยืดสีขาว มีอักษร เอ ที่หน้าอกด้านซ้าย สวมยกทรงสีขาว กางเกงขาสั้นลายทางตรงขาวน้ำเงิน สวมรองเท้านักเรียนแบบมัธยม

เป็นภาพที่น่าสลดใจจริงๆ

ญาติให้ข้อมูลว่า น้องแนนหายออกจากบ้านตอนเช้าวันที่ 10 ก.ย. ซึ่งวันนั้นเธอใส่ชุดนักเรียนไปรอรถโดยสารที่ศาลาหน้าปากซอยใกล้บ้าน หลังจากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พบเพียงกระเป๋านักเรียนและหูกระต่ายคอซองตกอยู่ ซึ่งญาติให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าน้องแนนเป็นเด็กสาวหน้าตาดี เรียนดี ความประพฤติเรียบร้อย เป็นเด็กไม่ค่อยพูดและไม่มีศัตรูที่ไหน ดังนั้น ประเด็นเรื่องส่วนตัวจึงตัดทิ้งไปได้

คดีนี้เป็นคดีใหญ่

พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ สั่งการไล่ล่าคนร้ายทันที มอบหมายให้ พ.ต.อ.กรเอก เพชรไชยเวส รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน พ.ต.อ.ธาตรี ตั้งโสภณ รองผบก. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน ระดมทีมนักสืบมือดีจากตำรวจภูธร ภาค 1 ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.พระนครศรี อยุธยา สภ.อ.พระนครศรีอยุธยา และสภ.อ.นครหลวง ล่าตัวคนร้ายทันที

ตำรวจขีดวงไว้ว่า คนร้ายจะต้องเป็นคนในพื้นที่

เพราะรู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าจุดพบศพเป็นทางเปลี่ยว จะมีก็เฉพาะคนในพื้นที่เท่านั้นที่จะรู้เส้นทางนี้

ดังนั้น จึงโฟกัสไปยังกลุ่มวัยรุ่นในท้องที่ อ.นครหลวง

เน้นพวก "เด็กแว้น" ซิ่งจยย.กวนเมืองก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเชื่อว่าพวกนี้มีศักยภาพพอที่จะทำแบบนี้ได้

การทำงานของตำรวจยังคงรุดหน้าต่อไป

มีการนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำหลายราย และในขณะเดียวกัน การตามเก็บรวบรวมพยานหลักฐานซ้ำจากที่เกิดเหตุก็ยังทำควบคู่กันไป ซึ่งนับเป็นโชคดีที่เจ้าหน้าที่ไปพบหลักฐานเด็ดที่คนร้ายทำหล่นไว้ เป็นพวงกุญแจรูปหัวใจสีฟ้า มีเชือกไนลอนใช้สำหรับ ตกปลาพันติดอยู่ จึงนำมาวิเคราะห์หากลุ่มคนร้าย จนสรุปได้ว่าคนร้ายเป็นกลุ่มที่ชอบตกปลา เพราะใช้เชือกไนลอนพันพวงกุญแจไว้ เจ้าหน้าที่จึงปลอมตัวเป็นนัก ตกปลาเข้าไปหาข่าวแก๊งโจ๋กลุ่มนี้

หลังจากนั้นไม่นาน

จึงรู้มาว่า ด.ช.อ๊อด (นามสมมติ) อายุ 14 ปี กับเพื่อนๆ อีก 5 คน ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่ 7 ต.บ่อโพรง อ.นครหลวง เป็นกลุ่มที่ชอบตกปลาเป็นประจำ ตำรวจจึงนำตัวด.ช.อ๊อดมาสอบปากคำ แต่ตอนนั้นยังไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน จึงจำ เป็นต้องปล่อยตัวไปชั่วคราว ขณะเดียวกัน ทีมสืบอีกชุดได้ออกหาข่าวจากพยานที่อยู่ใกล้ศาลารอรถประจำทาง ซึ่งพยานยืนยันว่าเช้าวันที่ 10 กันยา ยน เห็นแก๊งวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์ป้วนเปี้ยน อยู่แถวนั้น จึงนำตัวพยานมาสเกตช์ภาพคนร้ายเพื่อดูเค้าหน้าพวกมัน

ภาพสเกตช์ออกมาปรากฏว่า เหมือน ด.ช.อ๊อดอย่างกับแกะ!!

ถึงแม้ทุกอย่างจะพุ่งเป้ามาที่ด.ช. อ๊อด แต่ตำรวจก็ยังไม่ผลีผลามจับกุมตัว ยังคงเฝ้าตามดูพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งพบว่าด.ช.อ๊อดได้ย้อนกลับบ้านไปทำลายหลักฐานชิ้นสำคัญ คือ บันไดบ้านที่นำมาเป็นเชื้อเพลิงเผาทำลายชุดนักเรียนเหยื่อ ถุงเท้านักเรียนสีขาวที่ยังไม่ถูกไฟเผา เศษกระโปรง เสื้อผ้า และซิปที่ถูกไฟไหม้ไปแล้วบางส่วน

เท่านั้นจึงตะครุบตัวด.ช.อ๊อดทันที

ด.ช.อ๊อดยอมรับสารภาพว่า ร่วมกับนายไกด์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี, ด.ช.ชง (นามสมมติ) อายุ 14 ปี, นายบอย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี, นายโบ๊ต (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และนายบิ๊ก (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ข่มขืนฆ่าผู้ตายส่วนสาเหตุเกิดจากนายไกด์หลงรักผู้ตาย เคยตามจีบผู้ตายแต่ผู้ตายไม่สน จึงร่วมกันฉุดขึ้นรถจักรยานยนต์ไปที่บ้านนายอ๊อดแล้วลงมือเรียงคิวข่มขืน นอกจากนั้น ยังไม่หนำใจพาไปข่มขืนอีกรอบใกล้จุดพบศพแล้วใช้ไม้ตีจนสลบ ก่อนจับโยนทิ้งบ่อน้ำ กลางทุ่งนาแล้วตามไปจับกดน้ำจนเสียชีวิตอย่างเหี้ยมโหด

หลังปิดคดี เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

เริ่มจากเช้าวันเกิดเหตุ ด.ช.อ๊อด หัวหน้าแก๊ง พร้อมเพื่อนได้ขี่รถจักรยานยนต์รวม 4 คันไปขับวนดูที่บ้าน ด.ญ. แนน แต่ไม่พบตัว จึงพากันขี่รถไปยังศาลาที่พักผู้โดยสาร ริมถนนสายช่างแสง-หันตรา จึงพบด.ญ. แนนนั่งรอรถอยู่ จึงรอให้คนในศาลาไปจนหมด เหลือเพียงด.ญ.แนนคนเดียว หลังจากนั้นนายไกด์ นายบิ๊ก ด.ช.ชง และนายบอย ได้ตรงเข้าฉุด ด.ญ.แนนขึ้นรถจักรยานยนต์ของนายไกด์ โดยมีด.ช.ชงนั่งประกบท้ายและใช้เสื้อปิดปากด.ญ.แนนไว้ แล้วพาไปยังบ้านพักของด.ช.อ๊อด เมื่อถึงบ้าน ด.ช.ชง กับ นายบิ๊ก ช่วยกันฉุดลาก ด.ญ.แนนเข้าไปในบ้าน และผลัดกันข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อเสร็จกิจทั้งหมดพาด.ญ.แนนขึ้นรถจักรยานยนต์ไปยังบ่อน้ำบริเวณหลังโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช โดยนายไกด์ นายบิ๊ก ด.ช.ชง และนายโบ๊ต ลงมือข่มขืนซ้ำ หลังเสร็จกิจด.ช.อ๊อดได้ประคอง ด.ญ.แนนไปที่บ่อน้ำ ใช้ไม้ตีเข้าที่กรามจนสลบ แล้วช่วยกันจับร่างด.ญ.แนนโยนลงในบ่อน้ำ ก่อนที่ด.ช.ชงจะตามลงไปกดร่างให้จมน้ำและหมกศพเข้าไปในกอหญ้า จากนั้น ด.ช.อ๊อดกับนายบอยนำมีดที่เตรียมมาไปตัดทางมะพร้าวมาปิดบังศพทับอีกชั้น และ ด.ช.อ๊อดขึ้นไปเหยียบซ้ำให้ศพจมลงน้ำก่อนที่ทั้งหมดจะพากันแยกย้ายหลบหนี

ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา และร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนทันที

ไม่น่าเชื่อว่าใจคอจะอำมหิตขนาดนี้!!