อัจฉริยะ แฉหลักฐานเด็ดมัดมือฆ่าน้องหญิง ซัดสำนวนสุดอัปยศ..

     จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Baifern Pns โพสต์เล่าเหตุการณ์ ว่าเมื่อวันที่ 19 ก.ค. "น้องหญิง" อายุ 19 ปี ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา เนื่องจากกะโหลกศีรษะแตกและสมองบวม โดยผู้ชายที่ขับรถไปส่งน้องหญิง อ้างว่าผู้เสียชีวิตได้กระโดดลงจากรถไปเอง แต่ผลชันสูตรเบื้องต้นจากแพทย์ระบุว่า ถูกตีด้วยของแข็งไม่มีคมเข้าที่ท้ายทอย กระทั่งวานนี้ (28 ก.ค.) ตำรวจ สภ.บางปะอิน ได้แจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายกับ นายสุรพล ดาราคำ หรือ อ๊อฟ อายุ 23 ปี พร้อมยังคุมตัวสอบสวนต่อ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 29 ก.ค.นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในฐานะรับผิดชอบและดูแลคดีให้กับผู้เสียหาย กล่าวว่า ขณะนี้ทางเรามีหลักฐาน ผลการเทียบเคียงของน้องหญิง ทั้งมีเสียงถูกทำร้าย หลักฐานที่ได้จากจีพีเอส ไทม์ไลน์ การใช้รถเทรลเลอร์ คลิปเสียงต่างๆจากการที่น้องหญิงถูกทำร้ายตรงข้ามกับนายอ๊อฟ ที่บอกว่าน้องหญิงร้องไห้อย่างเดียว และมีการกระโดดลง ขณะที่นายอ๊อฟขับรถไป ซึ่งขณะนี้เราได้หลักฐานของรถคันนี้หมดแล้ว

"สิ่งสำคัญคือ การทำงานวันนี้เราได้พบสิ่งที่น่าเสียใจคือเราพบว่า ผู้กำกับบางปะอินเกรงกลัวความผิดในการตั้งกรรมการสอบ ม. 157 ได้ทำในสิ่งที่ไม่มีใครทำกัน นั่นก็คือ เรายังไม่ได้นำผู้เสียหายไปให้ปากคำ เพราะครั้งแรกที่แจ้งความ สภ.บางปะอินไม่ได้รับแจ้งความ ในข้อหาฆาตกรรม แต่ลงบันทึกประจำวันให้เป็นเรื่องอุบัติเหตุ และ วันที่ 19 ก.ค.จนถึงวันนี้ยังไม่ได้แจ้งเลขคดีอาญาให้เราทราบ เมื่อสื่อฯจี้ถามผกก.บางปะอินก็ลงพื้นที่พร้อมผู้สื่อข่าว แสดงพลังให้เห็นว่าลงพื้นที่ร่วมสื่อฯ คดีนี้บอกเลยว่าผู้เสียหายได้คุยกับผกก.บางปะอินแล้วในเรื่องรับคดี แต่ให้หาหลักฐานมาเอง ซึ่งวันนี้ได้แต่แจ้งข้อหานายอ๊อฟ และได้นำตัวไปฝากขัง ซึ่งโดยปกติการสอบสวนในคดีอาญาทั่วไป พนักงานสอบสวนต้องรับแจ้งความคดีอาญาของผู้เสียหายก่อน แต่วันนี้ผู้เสียหายยังไม่ให้ถ้อยคำ กลับปรากฏว่า สภ.บางปะอิน โดยเฉพาะผกก.บางปะอินสรุปเอง แจ้งเอง ขึ้นศาลเป็นโจทก์ แล้วไม่มีผู้เสีย ไม่มีประจักษ์พยานของผู้เสียหาย ทำคดีแบบนี้ คิดดูว่าศาลจะยกฟ้องหรือไม่"นายอัจฉริยะ กล่าว

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า  คดีแบบนี้มันเป็นการกระทำที่ใช้ได้หรือไม่ในกระบวนการยุติธรรมเมื่อผู้เสียหายยังไม่ได้ให้ถ้อยคำ แต่สภ.บางปะอินกลับเข้าไปควบคุมการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวน คิดว่าคดีนี้ผู้ต้องหาจะหลุดหรือไม่ มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่า สภ.บางปะอินจะทำเอง หากคุณรับคดีน้องหญิง มาถึงวันนี้คงไม่เป็นแบบนี้เพราะหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ถูกทำลายไปมาก หากคุณพ่อน้องหญิงไม่เก็บศพไว้ มีการเผาไปก่อนคงไม่ง่ายในการเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ในวันที่ 30 ก.ค.จะนำผู้เสียหายไปแจ้งความกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่กองบังคับการปราบปรามเพราะไม่มั่นใจในการทำงานของสภ.บางปะอิน และจะแจ้งความเอาผิดกับสภ.บางปะอิน ในข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ 157 สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อมากการทำสำนวนคดีแบบนี้เป็นเรื่องที่บอกตรงๆเลยว่ามันคือสุดอัปยศในกระบวนการยุติธรรมเลย

Cr::: dailtnews.co.th