ภรรยาร่ำไห้ รับศพสามีโดดตึก พ้อคู่กรณีมีอิทธิพล! วอนเจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรม

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 ก.ค. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นางเรวดี คัฬหสุนทร ภรรยา พร้อมน.ส.ปทุมมา เนตรเชวียง น้าสาว เดินทางมารับศพสามี นายศุภชัย คัฬหสุนทร (ผู้เสียชีวิต) โดยเธอได้กล่าวพร้อมทั้งน้ำตาว่า ตนไม่เคยคิดมาก่อนว่าสามีจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เพราะก่อนเดินทางไปฟังคำพิพากษา สามีอารมณ์ดี ร่าเริง ไม่คิดว่าศาลจะยกฟ้อง อีกทั้งไม่มีรางร้ายบอกเหตุใดใด จนกระทั่งสิ้นคำพิพากษา ก็คิดว่าสามีขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็ไม่คิดว่าจะคิดสั้น ตอนนั้นตนก็คิดจะกระโดดตึกฆ่าตัวตายเหมือนกัน แต่มีคนมาดึงไว้ทัน

“วอนขอความเป็นธรรมกับผู้มีอำนาจ เนื่องจากครอบครัวต้องสูญเสียทั้งสามีและลูก หากถึงที่สุดแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนก็มีสิทธิ์ที่จะคิดสั้น แม้ว่าคนอื่นจะมองว่าตัวเองเป็นคนโง่ก็ตาม อย่างไรก็ตาม จะนำร่างของสามีไปบำเพ็ญกุศลที่วัดกุนนทีรุทธาราม ย่านห้วยขวาง” นางเรวดี (ภรรยาผู้เสียชีวิต) กล่าว

เธอยังได้กล่าวต่ออีกว่า แนวทางการต่อสู้หลังจากนี้ ยืนยันจะเดินหน้าต่อทั้งในชั้นศาลอุทธรณ์ และฎีกา โดยขอขอบคุณผู้มีอำนาจที่สั่งให้มีการรวบรวมหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่าคดีมีความบกพร่องส่วนใด เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ครอบครัวหาหลักฐานฝ่ายเดียว ถึงขั้นสามีลาออกจากงานประจำเพื่อติดตามคดีและหาหลักฐาน จึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากคู่กรณีเป็นผู้มีอิทธิพล เป็นคนมีฐานะ ในท้องถิ่น เลยทำให้พยานจำนวนมากไม่กล้าบอกว่าใครเป็นคนร้ายที่แท้จริง เพราะเขาก็ไม่อยากเดือดร้อน นอกจากนี้ พยานหลักฐานที่เป็นกล้องวงจรปิดไม่สามารถนำมาใช้ในการหักล้างกับคู่กรณีได้ เนื่องจากมีกล้องบางตัวในจุดเกิดเหตุไม่สามารถใช้การได้ แต่ยืนยันหากตำรวจมีความพยานยามในการหาหลักฐานด้วยเชื่อว่าสามารถหาคนร้ายตัวจริงมาลงโทษได้ บางคดีศพถูกเผายังหาคนร้ายมาลงโทษได้เลย