สาเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม เจอคลื่นสูง4เมตรซัดจมกลางทะเล
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม สาเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม เจอคลื่นสูง4เมตรซัดจมกลางทะเล
กรมเจ้าท่าเผยสาเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม ชี้คลื่นยักษ์ 4 เมตรจมเรือกลางทะเล ด้าน รมว.คมนาคม สั่งเอกชนกู้เรือมาตรวจสอบหลักฐานก่อนลุยเอาผิดทางกฎหมาย เชื่อใช้เงินกู้เรือ 10 ล้านบาทอาจใช้เวลานานนับเดือน
นายกริชเพชร ชัยช่วย รองอธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.)เปิดเผยความคืบหน้าการสรุปสาเหตุของเรือฟินิกซ์ล่มที่ จ.ภูเก็ตจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้นขณะนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมได้กำชับให้ดำเนินการสรุปข้อมูลโดยเร็วเพื่อสร้างความกระจ่างให้กับสังคมและผู้สูญเสีย
โดยเบื้องต้นนั้นจท.พบว่าสาเหตุของเรือล่มครั้งนี้มาจากสภาพอากาศแปรปรวนฉับพลันทำให้เกิดลมกระโชกด้วยความเร็วมากกว่า 30 กม./ชม. ส่งผลให้เกิดคลื่นสูงกว่า 4 เมตรเข้าโจมตีเรืออย่างรุนแรงจากทางด้านซ้ายมือของเรือประกอบกับเรือนั้นเกิดอาการโคลงจนไม่สมดุลเพราะต้องแล่นท่ามกลางคลื่นลมรุนแรงจนในที่สุดต้องจมลงไป
เมื่อลงรายละเอียดพบว่าลมกระโชกดังกล่าวพัดมาจากทิศตะวันตกขณะที่เรือกำลังแล่นจากทิศใต้ไปยังทิศเหนือส่งผลให้ต้องรับแรงกระแทกคลื่นจากทางซ้ายมือของเรือ
สรุปเหตุการณ์ได้ดังนี้
เวลา 9.00 เรือลำดังกล่าวแล่นออกจากฝั่งขณะนั้นมีความเร็วลมเพียง 3-5 กม./ชม. จากนั้นเรือแล่นไปดำน้ำบริเวณเกาะราชาน้อยและเดินทางต่อไปดำน้ำยังเกาะราชาใหญ่ช่วง
เวลา 13.00 ขณะนั้นกำลังลมเริ่มรุนแรงมากขึ้นมากกว่า 10-20 กม./ชม. และสถานที่สุดท้ายที่เรือเดินทางออกมาคือเกาะไม้ท่อนเพื่อกลับเข้าฝั่งภูเก็ตช่วงเวลา
เวลา17.00-17.30 ขณะนั้นเกิดลมกระโชกรุนแรงจนเป็นเหตุให้เรือล่ม
นายกริชเพชรกล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนการสอบสวนเพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการหรือผู้ควบคุมเรือนั้น จำเป็นต้องทำการกู้ซากเรือฟินิกซ์ที่จมลงในทะเลขึ้นมาเสียก่อน เพื่อตรวจสอบมาตรฐานเรือ ความพร้อมของอุปกรณ์และโครงสร้างการออกแบบว่าเป็นไปตามที่ได้จดทะเบียนกับกรมเจ้าท่าไว้หรือไม่
จากข้อมูลที่พบระบุว่าเรือลำดังกล่าวเป็นเรือใหม่ที่เพิ่งผลิตขึ้นในปี 2560 และเข้ามาขึ้นทะเบียนรับรองและออกใบอนุญาตจากกรมเจ้าท่าเมือเดือน ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา ดังนั้นต้องตรวจสอบว่าเป็นไปตามที่เสนอมาหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามนั้นจะสามารถเอาผิดกับเจ้าของบริษัทดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตามขณะนี้จท.อยู่ระหว่างออกหนังสือบังคับให้เจ้าของเรือทำการเสียค่าใช้จ่ายเพื่อกู้เรือดังกล่าวขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งหากเอกชนไม่ยอมดำเนินการรัฐบาลจำเป็นต้องควักเงินค่าใช้จ่ายมากกว่า 10 ล้านบาทเพื่อกู้เรือขึ้นมาก่อนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับเอกชนในภายหลัง ทั้งนี้คาดว่าขั้นตอนการกู้เรืออาจใช้เวลานานนับเดือนเพราะต้องวางแผนอย่างรอบคอบไม่ให้หลักฐานเสียหาย
ขณะที่ผู้ควบคุมเรือนั้นจำเป็นต้องสอบสวนควบคู่กันไปด้วยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาจากเหตุสุดวิสัยจากลมกรรโชกรุนแรงในช่วงเวลาดังกล่าวหรือไม่ และผู้ควบคุมเรือมีวิธีดำเนินการได้ถูกต้องเพื่อรักษาชีวิตลูกเรือไว้หรือไม่อย่างไร ทั้งนี้หากทั้งสองฝ่ายมีความผิดจะเข้าข่ายกฎหมายอาญาเรื่องของความประมาทเลินเล่อจนทำให้มีผู้เสียชีวิต
นายกริชเพชรกล่าวต่อว่าสำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้นอาจจะต้องเสนอรัฐบาลเพื่อออกหรือเพิ่มกฎหมายใหม่ให้ควบคุมเฉพาะเจาะจงเรือท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้ไปปนกับเรือประเภทอื่นในเรื่องของการบังคับให้ทำตามประกาศแจ้งเตือนเรื่องสภาพลมฟ้าอากาศ หากเตือนแล้วไม่ทำตามจะต้องมีความผิดโดยไม่สามารถอ้างว่าให้เป็นดุลพินิจของผู้ควบคุมเรือได้อีกต่อไปแล้ว อาทิ หากพบว่าพรุ่งนี้จะมีคลื่นสูง 4 เมตร จะออกประกาศแจ้งเตือนก่อนวันดังกล่าวว่าเรือท่องเที่ยวที่มีความสูง 2-4 เมตรห้ามออกจากฝั่งนอกจากนี้กรมเจ้าท่าจะยกระดับการออกใบอนุญาตประกอบการและมาตรฐานของเรือท่องเที่ยวให้เข้มข้นมากขึ้นทั้งเรื่องขั้นตอนการขอและรายละเอียดแบบเรือที่ต้องชี้แจงให้ชัดเจนมากขึ้น
ควบคู่ไปกับการเพิ่มรอบตรวจสอบสภาพเรือทีได้รับอนุญาตให้มีความถี่มากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ล่าสุดปฏิบัติการกู้ร่างผู้เสียชีวิตรายสุดท้าย (รายที่ 47) สามารถกู้ร่างได้สำเร็จแล้ว ทำให้ร่างผู้เสียชีวิตครบตามจำนวนผู้สูญหาย
Cr::: posttoday.co.th
นายกริชเพชร ชัยช่วย รองอธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.)เปิดเผยความคืบหน้าการสรุปสาเหตุของเรือฟินิกซ์ล่มที่ จ.ภูเก็ตจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้นขณะนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมได้กำชับให้ดำเนินการสรุปข้อมูลโดยเร็วเพื่อสร้างความกระจ่างให้กับสังคมและผู้สูญเสีย
โดยเบื้องต้นนั้นจท.พบว่าสาเหตุของเรือล่มครั้งนี้มาจากสภาพอากาศแปรปรวนฉับพลันทำให้เกิดลมกระโชกด้วยความเร็วมากกว่า 30 กม./ชม. ส่งผลให้เกิดคลื่นสูงกว่า 4 เมตรเข้าโจมตีเรืออย่างรุนแรงจากทางด้านซ้ายมือของเรือประกอบกับเรือนั้นเกิดอาการโคลงจนไม่สมดุลเพราะต้องแล่นท่ามกลางคลื่นลมรุนแรงจนในที่สุดต้องจมลงไป
เมื่อลงรายละเอียดพบว่าลมกระโชกดังกล่าวพัดมาจากทิศตะวันตกขณะที่เรือกำลังแล่นจากทิศใต้ไปยังทิศเหนือส่งผลให้ต้องรับแรงกระแทกคลื่นจากทางซ้ายมือของเรือ
สรุปเหตุการณ์ได้ดังนี้
เวลา 9.00 เรือลำดังกล่าวแล่นออกจากฝั่งขณะนั้นมีความเร็วลมเพียง 3-5 กม./ชม. จากนั้นเรือแล่นไปดำน้ำบริเวณเกาะราชาน้อยและเดินทางต่อไปดำน้ำยังเกาะราชาใหญ่ช่วง
เวลา 13.00 ขณะนั้นกำลังลมเริ่มรุนแรงมากขึ้นมากกว่า 10-20 กม./ชม. และสถานที่สุดท้ายที่เรือเดินทางออกมาคือเกาะไม้ท่อนเพื่อกลับเข้าฝั่งภูเก็ตช่วงเวลา
เวลา17.00-17.30 ขณะนั้นเกิดลมกระโชกรุนแรงจนเป็นเหตุให้เรือล่ม
นายกริชเพชรกล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนการสอบสวนเพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการหรือผู้ควบคุมเรือนั้น จำเป็นต้องทำการกู้ซากเรือฟินิกซ์ที่จมลงในทะเลขึ้นมาเสียก่อน เพื่อตรวจสอบมาตรฐานเรือ ความพร้อมของอุปกรณ์และโครงสร้างการออกแบบว่าเป็นไปตามที่ได้จดทะเบียนกับกรมเจ้าท่าไว้หรือไม่
จากข้อมูลที่พบระบุว่าเรือลำดังกล่าวเป็นเรือใหม่ที่เพิ่งผลิตขึ้นในปี 2560 และเข้ามาขึ้นทะเบียนรับรองและออกใบอนุญาตจากกรมเจ้าท่าเมือเดือน ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา ดังนั้นต้องตรวจสอบว่าเป็นไปตามที่เสนอมาหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามนั้นจะสามารถเอาผิดกับเจ้าของบริษัทดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตามขณะนี้จท.อยู่ระหว่างออกหนังสือบังคับให้เจ้าของเรือทำการเสียค่าใช้จ่ายเพื่อกู้เรือดังกล่าวขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งหากเอกชนไม่ยอมดำเนินการรัฐบาลจำเป็นต้องควักเงินค่าใช้จ่ายมากกว่า 10 ล้านบาทเพื่อกู้เรือขึ้นมาก่อนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับเอกชนในภายหลัง ทั้งนี้คาดว่าขั้นตอนการกู้เรืออาจใช้เวลานานนับเดือนเพราะต้องวางแผนอย่างรอบคอบไม่ให้หลักฐานเสียหาย
ขณะที่ผู้ควบคุมเรือนั้นจำเป็นต้องสอบสวนควบคู่กันไปด้วยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาจากเหตุสุดวิสัยจากลมกรรโชกรุนแรงในช่วงเวลาดังกล่าวหรือไม่ และผู้ควบคุมเรือมีวิธีดำเนินการได้ถูกต้องเพื่อรักษาชีวิตลูกเรือไว้หรือไม่อย่างไร ทั้งนี้หากทั้งสองฝ่ายมีความผิดจะเข้าข่ายกฎหมายอาญาเรื่องของความประมาทเลินเล่อจนทำให้มีผู้เสียชีวิต
นายกริชเพชรกล่าวต่อว่าสำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้นอาจจะต้องเสนอรัฐบาลเพื่อออกหรือเพิ่มกฎหมายใหม่ให้ควบคุมเฉพาะเจาะจงเรือท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้ไปปนกับเรือประเภทอื่นในเรื่องของการบังคับให้ทำตามประกาศแจ้งเตือนเรื่องสภาพลมฟ้าอากาศ หากเตือนแล้วไม่ทำตามจะต้องมีความผิดโดยไม่สามารถอ้างว่าให้เป็นดุลพินิจของผู้ควบคุมเรือได้อีกต่อไปแล้ว อาทิ หากพบว่าพรุ่งนี้จะมีคลื่นสูง 4 เมตร จะออกประกาศแจ้งเตือนก่อนวันดังกล่าวว่าเรือท่องเที่ยวที่มีความสูง 2-4 เมตรห้ามออกจากฝั่งนอกจากนี้กรมเจ้าท่าจะยกระดับการออกใบอนุญาตประกอบการและมาตรฐานของเรือท่องเที่ยวให้เข้มข้นมากขึ้นทั้งเรื่องขั้นตอนการขอและรายละเอียดแบบเรือที่ต้องชี้แจงให้ชัดเจนมากขึ้น
ควบคู่ไปกับการเพิ่มรอบตรวจสอบสภาพเรือทีได้รับอนุญาตให้มีความถี่มากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ล่าสุดปฏิบัติการกู้ร่างผู้เสียชีวิตรายสุดท้าย (รายที่ 47) สามารถกู้ร่างได้สำเร็จแล้ว ทำให้ร่างผู้เสียชีวิตครบตามจำนวนผู้สูญหาย
Cr::: posttoday.co.th
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น