หลวงตาเปิดปูมหลัง โศกนาฏกรรมความรัก ก่อนแฟนหนุ่มลั่นไกใส่ “น้องอุ้ม” ดับ!!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม หลวงตาเปิดปูมหลัง โศกนาฏกรรมความรัก ก่อนแฟนหนุ่มลั่นไกใส่ “น้องอุ้ม” ดับ!!
จากคดีสะเทือนขวัญ เมื่อนายภัคพงษ์ จิตตารมย์ อายุ 24 ปี แฟนหนุ่ม ก่อเหตุยิงน.ส.ณัจฉรีญา ทาประจิตร หรือน้องอุ้ม อายุ 21 ปี แฟนสาวและนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยชื่อดัง ภายในต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองบาดเจ็บสาหัส ลงมือโหดต่อหน้าต่อหน้าเพื่อนของนศ.สาวที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยพบมีชนวนเหตุมาจากฝ่ายชายมาตามง้อขอคืนดี แต่ถูกปฏิเสธ จึงลงมือโหด ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ทางญาติของน้องอุ้ม อายุ 22 ปี ได้เดินทางมารับศพและนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ จ.สุรินทร์ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของคนในครอบครัวและเพื่อนๆ กว่า 200 คนที่เฝ้ารอรับศพทั้งน้ำตา เช่นเดียวกับทางญาติของนายภัคพงษ์ อายุ 26 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้รับศพกลับมาทำพิธีทางศาสนาที่ จ.ระยอง ท่ามกลางความเศร้าเสียใจ
โดยทางครอบครัวของภัคพงษ์ได้นำร่างมาตั้งทำพิธีทางศาสนาอยู่ที่ วัดสำนักทอง อ.เมืองระยอง แม้ว่าเดิมครอบครัวของนายภัคพงษ์จะเป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช แต่ได้โยกย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ จ.ระยอง เพื่อประกอบอาชีพกรีดยางพาราในพื้นที่
หลวงตาอัค พระลูกวัดสำนักทอง ได้เล่าถึงเรื่องราวชีวิตของนายภัคพงษ์ ผู้ก่อเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ โดยระบุว่า เมื่อราวๆ 2 ปีก่อน นายภัคพงษ์เพิ่งได้บวชเรียนอยู่ที่วัดแห่งนี้ โดยตัดสินใจบวชอยู่ถึง 2 พรรษา ก่อนจะลาสิกขาไป เพราะได้งานทำและอยากจะทำมาหากินหาเลี้ยงพ่อแม่
หลวงตายังบอกอีกว่า นายภัคพงษ์ก็ยังคงแวะเวียนกลับมาช่วยเหลืองานที่วัดอยู่เสมอๆ ทั้งช่วยขับรถให้วัดแทนผู้เป็นพ่ออยู่บ่อยครั้ง แต่เรื่องส่วนตัวนั้นไม่เคยเล่าให้พระฟัง ส่วนรถที่นายภัคพงษ์ใช้ในวันก่อเหตุนั้นเป็นรถของพ่อ ซึ่งปกติแล้วมักจะใช้รถจักรยานยนต์เดินทางไปทำงาน นานๆ ครั้งจะยืนรถพ่อไปใช้
ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่าง นายภัคพงษ์ กับ น้องอุ้ม เดิมที่ครอบครัวของฝ่ายหญิงก็อาศัยอยู่ที่ จ.ระยอง เพราะต่างก็ย้ายมาประกอบอาชีพกรีดยางพาราในพื้นที่ และครอบครัวของต่างฝ่ายก็ต่างรู้จักกันอยู่ โดยในอดีตทั้ง 2 คนก็เป็นเพื่อนเล่นและเติบโตด้วยกันมา เคยเรียนที่โรงเรียนบ้านสำนักทองด้วยกัน กระทั่งเรียนจบชั้น ม.3 ก็แยกย้ายกันไปเรียนคนละที่ แต่ทั้งคู่ก็ยังติดต่อและคบหากันเป็นแฟนกันหลังจากนั้นเป็นต้นมา
ขอบคุณภาพจาก AMARIN TVHD, sanook
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น