เมียเอะใจผัวหายทั้งคืน โทร.หาโดนตัดสาย เช้าพบเป็นศพโดนอุ้มฆ่า

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 19 มี.ค. ร.ต.อ.ศิริพงษ์ เพ็งมณี รองสว.(สอบสวน) สน.พญาไท รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกทำร้ายเสียชีวิต หน้าหจก.ภัณฑ์ประเสริฐฮาร์ดแวร์ เลขที่ 110/4 ถนนบรรทัดทอง แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยพ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิทย์ รองผบก.น.1

ที่เกิดเหตุอยู่หน้าทางเข้าอาคารสูง พบศพนายพรรชัย ศรีภสุทวี อายุ 53 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ สภาพศพนอนหงายเสียชีวิต มีรอยฟกช้ำที่ปลายคาง มีแผลถลอกที่ข้อศอกขวา มือขวากำพระเครื่อง กำไลข้อมือ ภายในตัวพบกัญชาถุงเล็ก 1 ถุง ใกล้กันพบรถแท็กซี่ สีชมพู ทะเบียน ทล810 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายจอดอยู่

หลังเกิดเหตุ น.ส.ชลฤดี ประเสริฐกรณี อายุ 47 ปี ภรรยาผู้ตาย เดินทางมาดูศพ พร้อมให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา ทราบว่าผู้ตายเดินทางพร้อมกับเพื่อนรุ่นน้อง มาหาเพื่อนที่หอพักไม่มีชื่อภายในชุมชนเภตรารัตน์ ขณะที่ยืนอยู่หน้าหอพักมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบรุ่น ทะเบียน เข้ามาจอดหน้าหอพัก ก่อนคนขับรถเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี เดินมาล็อกคอและชกต่อยนายพรรชัย

ส่วนคนซ้อนท้ายเป็นวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปี ถือมีดขู่เพื่อนรุ่นน้องไม่ให้เข้ามาช่วยเหลือ ก่อนจะพานายพรรชัยขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่หายไป หลังจากที่ตนทราบเรื่อง ตนจึงรีบโทรศัพท์หาสามีของตน ซึ่งมีคนรับโทรศัพท์ แต่ไม่พูดตอบกลับมาและตัดสายไป และพบว่าโทรศัพท์ปิดเครื่องไปแล้ว ตนจึงรีบมาแจ้งความกับตำรวจสน.พญาไท ก่อนพบสามีเป็นศพในช่วงเช้า

น.ส.ชลฤดี ให้การต่อว่า ปกติสามีมีนิสัยชอบเล่นพระเครื่อง โดยชอบแขวนพระเครื่องเต็มคอ และชอบไปซื้อขายพระเครื่องตามศูนย์พระเครื่องต่างๆ ต่อมารู้จักกับนายพัน (ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง) ที่ชอบเล่นพระเครื่องด้วยกันมาประมาณ 2 ปี ก่อนหน้านี้ทราบว่าสามีมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับนายพันในเรื่องการซื้อขายพระเครื่อง ซึ่งตนก็เคยเตือนสามีว่าอย่าไปยุ่งกับนายพัน เพราะดูเป็นคนไม่ดีจนมาเกิดเรื่องขึ้น

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุครั้งนี้เกิดจากการขัดผลประโยชน์เรื่องการซื้อขายพระเครื่องอย่างไรก็ตาม ต้องสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงแล้ว เพื่อเร่งติดตามจับกุมคนร้าย ก่อนให้นำศพส่งนิติเวช รพ.รามาธิบดี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

Cr:::khaosod.co.th