นิยายที่เขียนไม่จบ! หนุ่มฝาก “จดหมายเลือด” ขอให้ช่วยแต่งต่อ ก่อนผูกคอดับ

วันที่ 6 มี.ค. ร.ต.อ.เรืองศักดิ์ หุนตระณี รอง สว.(สอบสวน) สน.บางนา รับแจ้งเหตุมีชายผูกคอเสียชีวิต ภายในห้องเลขที่ 112/915 อาคาร 5 แฟลตการเคหะบางนา ซอยบางนาตราด 46 ถนนบางนาตราด กม.4 แขวงบางนา เขตบางนา กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.บางนา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่ที่ชั้นที่ 2 อาคาร 5 จากการตวรจสอบพบว่าประตูด้านหน้าของห้องพักไม่สามารถเปิดได้จึงใช้บันไดพาดขึ้นทางระเบียงมเพื่อเข้าตรวจสอบภายในห้องพบศพ นายสุกฤษฎิ์ โล่ห์ขุนพรหม อายุ 20 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีอรรถวิทย์พณิชยการ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์กราฟฟิค ชั้น ปวส.ชั้นปี 2 ใช้ผ้าปูเตียง 2 ผืนผูกคอตัวเองกับลูกกรงเหล็กช่องหน้าต่างด้านนอกประตูทางเข้าห้องพัก เสียชีวิตในท่ายืนเท้าแตะพื้น จากการตรวจสอบภายในห้องพักไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สินแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-8 ชม. นอกจากนี้พบกระจกอ่างล้างหน้าแตก และมีจดหมายลาตายเขียนไว้บนกระดาษเอ4 ใจความว่า "ใน Document มีนิยายอยู่ โปรดเอามันไปเผยแพร่ให้ที ให้แต่งต่อให้ด้วย ขอร้องนะ" และมีคราบเลือดติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมรายละเอีดยที่พบไว้เป็นหลักฐาน

ด้านนายสนิท โล่ห์ขุนพรหม อายุ 70 ปี ปู่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า

 ก่อนเกิดเหตุประมาณ 10.00 น. ย่าของผู้ตายเกิดผิดสังเกตเพราะว่าวันนี้เป็นวันสอบวันแรกของหลานแต่ยังไม่เห็นลงมาจากห้องพัก จึงเดินขึ้นไปดูบริเวณหน้าห้อง เคาะประตูเรียกหลานชายแต่ไม่มีเสียงตอบ จึงโทรศัพท์ไปเรียกตนให้มาดูหลาน จากนั้นตนจึบรีบขึ้นไปดูภายในห้องพักก่อนจะชะโงกหน้ามองเข้าไปภายในห้อง ตนเอะใจว่าทำไมมีผ้าปูเตียงผูกอยู่กับลูกกรงเหล็กด้านหน้าห้องจำนวน 2 ผืน โดยมีลักษณะผูกเป็นปมและลากเข้าไปภายในตัวห้องพัก จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบพบว่าหลานเสียชีวิตแล้ว

โดยปกติแล้วหลานจะพักอาศัยเพียงคนเดียว โดยมีญาติๆ พักอาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าว ส่วนนิสัยของหลานชายเป็นคนดี ตั้งใจเรียน ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเพื่อน หลังเลิกเรียนก็จะมาช่วยย่าจัดเรียงของที่ร้านขายของข้างแฟลต ก่อนจะเข้าห้องพักเก็บตัวอยู่ในห้อง ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

ขณะที่ ร.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต แต่ต้องสอบสวนญาติของผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นจึงนำศพส่งชันสูตรที่ นิติเวช รพ.จุฬาฯ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนให้ญาตินำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

Cr:::khaosod.co.th