ส่อพิรุธหนุ่มตายเปลือย! เพื่อนยันไม่บ้า ถูกตร.ยิง อ้างชิงปืน โชว์ภาพมีสติข้ามถนน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ส่อพิรุธหนุ่มตายเปลือย! เพื่อนยันไม่บ้า ถูกตร.ยิง อ้างชิงปืน โชว์ภาพมีสติข้ามถนน
จากกรณีที่มีชายสติไม่สมประกอบ เปลือยกายเข้าไปแย่งปืน ด.ต.ทยกร แก้วโสม ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จนเป็นเหตุให้เกิดปืนลั่น ทำให้ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ โดยชายสติไม่สมประกอบคนดังกล่าว ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งครอบครัว และกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิต ยังคงมีข้อสงสัยถึงสาเหตุการตายหลายประการ พร้อมทั้งยืนยันว่า ผู้ตายไม่ใช่ชายสติไม่ดี จึงได้เรียกร้องเพื่อขอความเป็นธรรม
วันนี้ (28 ก.พ.) นายพงษ์ (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของ นายภาณุวัฒน์ หอมจิตต์ หรือ "แจ้" ผู้ตาย กล่าวว่า
นายแจ้ ไม่ได้เป็นคนสติไปสมประกอบตามที่เป็นข่าว ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมานานกว่า 17 ปี นายแจ้ มีนิสัยร่าเริง พูดคุยรู้เรื่อง ไม่เคยเห็นว่ามีอาการวิกลจริตแต่อย่างใด อีกทั้งก่อนหน้าที่นายแจ้ จะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ยังมีสติพูดคุยให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ติดต่อกลับมาหาญาติได้
นายพงษ์ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนนัดกลุ่มเพื่อน รวมถึงนายแจ้ ไปกินเลี้ยงสังสรรค์ เวลาประมาณ 20.30 น. ซึ่งตนทราบจากครอบครัวว่า นายแจ้ ออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงเวลา 19.30 น. โดยไม่ได้บอกคนที่บ้านว่าจะไปที่ไหน อีกทั้งยังมีท่าทีรีบร้อน ลืมกระเป๋าสตางค์ ไม่ปิดพัดลม และไม่ได้นำรถจักรยานยนต์คันโปรดที่เพิ่งซื้อมาออกไปด้วย
ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่า นายแจ้อาจจะออกไปหาใคร หรือไปทำอะไร ก่อนที่จะไปตามที่นัดหมายกับเพื่อนหรือไม่ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่นายแจ้ จะออกไปก่อนเวลานัดหมาย นานขนาดนั้น เนื่องจากบ้านแจ้ และสถานที่นัดหมายไม่ได้ไกลกันมาก
วันนี้ (28 ก.พ.) นายพงษ์ (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของ นายภาณุวัฒน์ หอมจิตต์ หรือ "แจ้" ผู้ตาย กล่าวว่า
นายแจ้ ไม่ได้เป็นคนสติไปสมประกอบตามที่เป็นข่าว ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมานานกว่า 17 ปี นายแจ้ มีนิสัยร่าเริง พูดคุยรู้เรื่อง ไม่เคยเห็นว่ามีอาการวิกลจริตแต่อย่างใด อีกทั้งก่อนหน้าที่นายแจ้ จะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ยังมีสติพูดคุยให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ติดต่อกลับมาหาญาติได้
นายพงษ์ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนนัดกลุ่มเพื่อน รวมถึงนายแจ้ ไปกินเลี้ยงสังสรรค์ เวลาประมาณ 20.30 น. ซึ่งตนทราบจากครอบครัวว่า นายแจ้ ออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงเวลา 19.30 น. โดยไม่ได้บอกคนที่บ้านว่าจะไปที่ไหน อีกทั้งยังมีท่าทีรีบร้อน ลืมกระเป๋าสตางค์ ไม่ปิดพัดลม และไม่ได้นำรถจักรยานยนต์คันโปรดที่เพิ่งซื้อมาออกไปด้วย
ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่า นายแจ้อาจจะออกไปหาใคร หรือไปทำอะไร ก่อนที่จะไปตามที่นัดหมายกับเพื่อนหรือไม่ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่นายแจ้ จะออกไปก่อนเวลานัดหมาย นานขนาดนั้น เนื่องจากบ้านแจ้ และสถานที่นัดหมายไม่ได้ไกลกันมาก
หลังจากเกิดเหตุ ตนได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เห็นชายสวมเสื้อผ้าถือแจ็คเก็ตเดินข้ามถนนไปที่เกาะกลาง ด้วยรูปร่างลักษณะท่าทางการเดิน ทุกคนเชื่อว่าน่าจะเป็นแจ้
ดังนั้นเพื่อน และญาติ จึงตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมในวันเกิดเหตุ นายแจ้ จึงอยู่ในสภาพแก้ผ้า แล้วที่ ด.ต.ทยกร ให้การว่า ขณะนั้นเข้าจอดรถเพื่อที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่นายแจ้ จะเข้ามาแย่งปืน ตนมองว่ามันผิดวิสัยเจ้าพนักงาน ที่ควรจะทำอะไรด้วยความระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะก่อนถึงที่เกิดเหตุยังมีอีกหลายจุด ที่ตำรวจสามารถเปลี่ยนเสื่อผ้าได้ เช่น ที่ปั๊มน้ำมัน ทั้งนี้ทุกคนรู้สึกติดใจที่ตำรวจ น่าจะมีการสอบสวนฝ่ายนายแจ้ ก่อนจะให้ข่าวว่านายแจ้ เป็นคนบ้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อพบว่ามีพิรุธเกี่ยวกับการตายของแจ้ จึงอยากให้ตำรวจทำการสอบสวนคดีนี้ใหม่ แต่ไม่อยากให้ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ที่ตำรวจรายนี้สังกัดอยู่เป็นผู้ทำคดี โดยต้องการให้สืบหาข้อเท็จจริงว่า ความจริงแล้วนายแจ้ ทำอะไร ถ้าพบว่าแก้ผ้า และแก้ผ้ามาตั้งแต่ตอนไหน เพราะจากกล้องวงจรปิดเขาไม่ได้แก้ผ้า อีกทั้ง ในจุดเกิดเหตุก็ยังเห็นรองเท้า และกางเกงของนายแจ้ ตกอยู่ด้วย โดยตนทราบว่า ตอนนี้ครอบครัวของนายแจ้ ได้ตั้งทนายมาดูแลคดี และเตรียมที่จะเข้าร้องกองปราบ เพื่อขอความเป็นธรรม
ดังนั้นเพื่อน และญาติ จึงตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมในวันเกิดเหตุ นายแจ้ จึงอยู่ในสภาพแก้ผ้า แล้วที่ ด.ต.ทยกร ให้การว่า ขณะนั้นเข้าจอดรถเพื่อที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่นายแจ้ จะเข้ามาแย่งปืน ตนมองว่ามันผิดวิสัยเจ้าพนักงาน ที่ควรจะทำอะไรด้วยความระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะก่อนถึงที่เกิดเหตุยังมีอีกหลายจุด ที่ตำรวจสามารถเปลี่ยนเสื่อผ้าได้ เช่น ที่ปั๊มน้ำมัน ทั้งนี้ทุกคนรู้สึกติดใจที่ตำรวจ น่าจะมีการสอบสวนฝ่ายนายแจ้ ก่อนจะให้ข่าวว่านายแจ้ เป็นคนบ้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อพบว่ามีพิรุธเกี่ยวกับการตายของแจ้ จึงอยากให้ตำรวจทำการสอบสวนคดีนี้ใหม่ แต่ไม่อยากให้ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ที่ตำรวจรายนี้สังกัดอยู่เป็นผู้ทำคดี โดยต้องการให้สืบหาข้อเท็จจริงว่า ความจริงแล้วนายแจ้ ทำอะไร ถ้าพบว่าแก้ผ้า และแก้ผ้ามาตั้งแต่ตอนไหน เพราะจากกล้องวงจรปิดเขาไม่ได้แก้ผ้า อีกทั้ง ในจุดเกิดเหตุก็ยังเห็นรองเท้า และกางเกงของนายแจ้ ตกอยู่ด้วย โดยตนทราบว่า ตอนนี้ครอบครัวของนายแจ้ ได้ตั้งทนายมาดูแลคดี และเตรียมที่จะเข้าร้องกองปราบ เพื่อขอความเป็นธรรม
ส่วนเรื่องประเด็นการตั้งข้อสังเกตว่า คดีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องชู้สาวหรือไม่นั้น นายพงษ์ กล่าวว่า
ตนได้ยินมาว่า นายแจ้ กำลังคบหากับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่า จะใช่คนเดียวกับแม่ค้าเต้าหู้นมสด ที่นายแจ้ เคยเล่าให้ตนฟังหรือไม่ โดยนายแจ้เคยพูดว่า "อยากรับเต้าหู้นมสดมาขาย แม่ค้าน่ารักด้วย" ซึ่งตนเชื่อว่าหญิงสาวรายนี้ น่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่รู้เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างดี ส่วนตัวยอมรับว่า ยังรู้สึกใจหายกับการจากไปของเพื่อนสนิท จึงอยากให้คดีนี้ได้รับความยุติธรรม
จากนั้นทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณริมถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด มุ่งหน้าถนนแจ้งวัฒนะ พบว่าบริเวณดังกล่าวค่อนข้างเปลี่ยว และข้างทางเป็นป่ารกร้าง ฝั่งตรงข้ามมีร้านขายอาหารตามสั่งเปิดอยู่ โดยมีทางขึ้นถนนยกระดับเพื่อจะไปสนามบินน้ำ บดบังวิสัยทัศน์ ระหว่างจุดเกิดเหตุ และร้านอาหาร
แม่ค้าที่ขายอาหารอยู่ในละแวกใกล้เคียงให้ข้อมูลว่า ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 3-4 นัด ก่อนที่จะมีรถเจ้าหน้าที่กู้ชีพ และรถตำรวจเข้ามา ตนไม่ได้ข้ามถนนไปดู เพราะขณะนั้นในร้านมีลูกค้าอยู่หลายคน แต่มาทราบจากข่าวภายหลังว่า มีคนบ้าเข้าไปแย่งปืนตำรวจแล้วเกิดปืนลั่น
ด้านความคืบหน้าทางด้านคดีที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า ด.ต.ทยกร แก้วโสม ยังไม่ได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ โดยอยู่ระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากกระสุนถูกเส้นเลือดใหญ่ ทำให้อาการค่อนข้างสาหัส เมื่อสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี เจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่า โดยให้เหตุผลว่าไม่ทราบในเรื่องคดี ต้องให้ทางผู้กำกับฯ เป็นคนให้ข่าวเท่านั้น ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวติดต่อไปสอบถาม พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผู้กำกับการ สภ.ปากเกร็ด ก็ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ โดยอ้างว่ายังไม่สะดวกให้ข้อมูลเนื่องจากติดงานอยู่
ขณะที่ครอบครัวนายแจ้ ผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า ยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกที่คนในครอบครัว กลับไปทำงานตามปกติ หลังจากฌาปนกิจศพนายแจ้ ไปเมื่อวานนี้ ทุกคนค่อนข้างเหนื่อย และกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมนำเถ้าอัฐินายแจ้ ไปลอยอังคารที่ จ.สมุทรปราการ ในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.)
ตนได้ยินมาว่า นายแจ้ กำลังคบหากับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่า จะใช่คนเดียวกับแม่ค้าเต้าหู้นมสด ที่นายแจ้ เคยเล่าให้ตนฟังหรือไม่ โดยนายแจ้เคยพูดว่า "อยากรับเต้าหู้นมสดมาขาย แม่ค้าน่ารักด้วย" ซึ่งตนเชื่อว่าหญิงสาวรายนี้ น่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่รู้เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างดี ส่วนตัวยอมรับว่า ยังรู้สึกใจหายกับการจากไปของเพื่อนสนิท จึงอยากให้คดีนี้ได้รับความยุติธรรม
จากนั้นทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณริมถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด มุ่งหน้าถนนแจ้งวัฒนะ พบว่าบริเวณดังกล่าวค่อนข้างเปลี่ยว และข้างทางเป็นป่ารกร้าง ฝั่งตรงข้ามมีร้านขายอาหารตามสั่งเปิดอยู่ โดยมีทางขึ้นถนนยกระดับเพื่อจะไปสนามบินน้ำ บดบังวิสัยทัศน์ ระหว่างจุดเกิดเหตุ และร้านอาหาร
แม่ค้าที่ขายอาหารอยู่ในละแวกใกล้เคียงให้ข้อมูลว่า ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 3-4 นัด ก่อนที่จะมีรถเจ้าหน้าที่กู้ชีพ และรถตำรวจเข้ามา ตนไม่ได้ข้ามถนนไปดู เพราะขณะนั้นในร้านมีลูกค้าอยู่หลายคน แต่มาทราบจากข่าวภายหลังว่า มีคนบ้าเข้าไปแย่งปืนตำรวจแล้วเกิดปืนลั่น
ด้านความคืบหน้าทางด้านคดีที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า ด.ต.ทยกร แก้วโสม ยังไม่ได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ โดยอยู่ระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากกระสุนถูกเส้นเลือดใหญ่ ทำให้อาการค่อนข้างสาหัส เมื่อสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี เจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่า โดยให้เหตุผลว่าไม่ทราบในเรื่องคดี ต้องให้ทางผู้กำกับฯ เป็นคนให้ข่าวเท่านั้น ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวติดต่อไปสอบถาม พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผู้กำกับการ สภ.ปากเกร็ด ก็ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ โดยอ้างว่ายังไม่สะดวกให้ข้อมูลเนื่องจากติดงานอยู่
ขณะที่ครอบครัวนายแจ้ ผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า ยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกที่คนในครอบครัว กลับไปทำงานตามปกติ หลังจากฌาปนกิจศพนายแจ้ ไปเมื่อวานนี้ ทุกคนค่อนข้างเหนื่อย และกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมนำเถ้าอัฐินายแจ้ ไปลอยอังคารที่ จ.สมุทรปราการ ในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.)
Cr:::amarintv.com
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น