‘ผอ.กาญจนา’ชี้แจงเคส‘ติ๊ก เจษฎา’แค่กล่าวโทษบุกรุกพื้นที่ต้องห้าม
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ‘ผอ.กาญจนา’ชี้แจงเคส‘ติ๊ก เจษฎา’แค่กล่าวโทษบุกรุกพื้นที่ต้องห้าม
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวภายหลังเข้าให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ว่า วันนี้ตำรวจสอบปากคำในเรื่องของลำดับช่วงเวลาการโทรศัพท์ กับนายนพดล พฤกษะวัน เพื่อประสานให้นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกรวม 4 คน เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร โดยยืนยันว่าเป็นการแนะนำให้ทำตามขั้นตอน ซึ่งตนเองไม่มีอำนาจโดยตรงในการอนุญาตให้เข้าพื้นที่ แต่ให้ประสานกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เพื่อขอเข้าพื้นที่
น.ส.กาญจนา กล่าวต่อว่า กรณีมีการเปรียบเทียบทีมของนายเจษฎาภรณ์ หรือติ๊ก ผลดี ดารานักแสดง ที่ขอเข้าไปถ่ายทำภาพยนตร์สารคดี ซึ่งการถ่ายจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งขณะนั้นก็อนุมัติเข้าไปถ่ายทำให้พื้นที่ ในลักษณะเดียวกับนายเปรมชัย ที่เข้าไปในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่นายเปรมชัยหนักกว่าเพราะไปล่าสัตว์ด้วย ส่วนนายเจษฎาภรณ์ไม่ได้ถูกจับกุมตัว เพียงแค่ถูกแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ในข้อหาบุกรุกผืนป่าในพื้นที่ต้องห้าม ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกัน แต่นายเปรมชัยถูกจับกุมเนื่องจากล่าสัตว์ ทั้งสองคนมีความผิดฐานเดียวกัน เพียงแต่นายเปรมชัยโทษหนักกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาบุกรุกผืนป่าในพื้นที่ต้องห้าม และล่าสัตว์ป่า ทั้งนี้ตนก็ไม่ทราบว่านายเปรมชัยและพวกมีเจตนาแอบแฝงหรือไม่ ตนไม่สามารถบอกได้ ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนวิเคราะห์
จากการตรวจสอบเท่าที่ผ่านมานายเปรมชัยยังไม่มีชื่อปรากฏว่า มีข้อมูลการขออนุญาตเข้าพื้นที่ดังกล่าวเลย อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการโทรขออนุญาตก็ตาม แต่ทางกรมอุทยานจะทำสถิติไว้อย่างไรก็ต้องมาการเขียนชื่อไว้ ซึ่งก็ไม่ปรากฏในฐานข้อมูล
น.ส.กาญจนา กล่าวต่อว่า กรณีมีการเปรียบเทียบทีมของนายเจษฎาภรณ์ หรือติ๊ก ผลดี ดารานักแสดง ที่ขอเข้าไปถ่ายทำภาพยนตร์สารคดี ซึ่งการถ่ายจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งขณะนั้นก็อนุมัติเข้าไปถ่ายทำให้พื้นที่ ในลักษณะเดียวกับนายเปรมชัย ที่เข้าไปในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่นายเปรมชัยหนักกว่าเพราะไปล่าสัตว์ด้วย ส่วนนายเจษฎาภรณ์ไม่ได้ถูกจับกุมตัว เพียงแค่ถูกแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ในข้อหาบุกรุกผืนป่าในพื้นที่ต้องห้าม ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกัน แต่นายเปรมชัยถูกจับกุมเนื่องจากล่าสัตว์ ทั้งสองคนมีความผิดฐานเดียวกัน เพียงแต่นายเปรมชัยโทษหนักกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาบุกรุกผืนป่าในพื้นที่ต้องห้าม และล่าสัตว์ป่า ทั้งนี้ตนก็ไม่ทราบว่านายเปรมชัยและพวกมีเจตนาแอบแฝงหรือไม่ ตนไม่สามารถบอกได้ ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนวิเคราะห์
จากการตรวจสอบเท่าที่ผ่านมานายเปรมชัยยังไม่มีชื่อปรากฏว่า มีข้อมูลการขออนุญาตเข้าพื้นที่ดังกล่าวเลย อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการโทรขออนุญาตก็ตาม แต่ทางกรมอุทยานจะทำสถิติไว้อย่างไรก็ต้องมาการเขียนชื่อไว้ ซึ่งก็ไม่ปรากฏในฐานข้อมูล
Cr:::khaosod.co.th
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น