นางเรณู หมดราคี อายุ 41 ปี แม่ผู้ตาย กล่าวว่า หลังจากทำพิธีเผาจำลองเมื่อวันที่ 10 เม.ย.60 ก็เก็บร่างของน้องเบนซ์ไว้ในโล่งติดแอร์เป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นคิดว่าถ้าไว้โล่งแอร์จะเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายจึงนำร่างของน้องเบนซ์ไปเก็บไว้ในที่เก็บศพ ซึ่งสร้างไว้ใหม่ข้างเมรุของวัด โดยใช้ปูนซีเมนต์ปิดอย่างมิดชิด จนกระทั่งเมื่อวานนี้ น้องเบนซ์ไปเข้าฝันกับพระในวัดว่าบุหรี่หมด จึงตัดสินใจให้ช่างเจาะปูนซีเมนซ์ ให้เป็นช่องเพื่อดูร่างน้องเบนซ์ ปรากฏว่าร่างน้องเบนซ์กล้ายเป็นหิน ไม่เน่า ไม่เปื้อย ยังมีเส้นผมงอกออกมา มีคิ้ว มีเครา และส่วนอื่นของร่างกายที่สัมผัสได้แข็งเหมือนหินทุกส่วน
"เมื่อเปิดดูถึงกับน้ำตาไหลไม่คิดว่าสภาพร่างของลูกจะกล้ายเป็นหิน ไม่เน่า ไม่เปื่อย ซึ่งหลังจากที่น้องเบนซ์เสียชีวิต ตนไปวัดทุกวันพระ และตั้งจิตอฐิษฐานว่าขอให้ร่างน้องเบนซ์ไม่เน่า ไม่เปื้อย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นจริง ซึ่งขณะนี้ให้ช่างทำโล่งแก้วแล้ว เพื่อจะนำร่างมาใส่โลงแก้วเก็บไว้ ส่วนคดีตอนนี้อยู่ในชั้นศาล ซึ่งเดินทางไปหลายครั้งแล้ว เพราะมีการเลื่อนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเลื่อนไป 3 ครั้งแล้ว" นางเรณู กล่าว
ด้านพระเอกพันธ์ อังสุธโร อดีตทหารจากมณฑลทหารบกที่ 45 สุราษฎร์ธานี เพื่อนรุ่นพี่ของพลทหารยุทธกินันท์ เดินทางไปบวชที่วัดยางงาม อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 จากนั้นจึงเดินทางมาจำวัดที่วัดดังกล่าว เห็นสภาพวัดซึ่งมีอายุกว่า 100 ปี มีสภาพชำรุดสุดโทรม และก่อนน้องเบนซ์เสียชีวิต พูดกับแม่ว่าวัดบ้านเราน่าจะมีโบสถ์ได้แล้ว จึงคิดอยากจะสร้างโบสถ์และบูรณะวัดให้ดีกว่าเดิม โดยขอน้องเบนซ์ว่าให้มีคนมาทำบุญและมีเงินสร้างโบสถ์ จึงจัดเทศน์มหาชาติ ต่อมาทางด้านพลตำรวจตรีอภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี มาเป็นเจ้าภาพจัดทอดผ้าป่าช่วยหาเงินสมทบทุน จากนั้นทางวัดได้มีการจัดงานเพื่อหาทุนสร้างโบสถ์ตลอดมา ขณะนี้สร้างฐานพื้นโบสถ์เสร็จแล้ว
พระเอกพันธ์ กล่าวต่อว่า น้องเบนซ์สร้างความเชื่อแปลกๆหลายครั้งแล้ว เช่นชาวบ้านหรือนักเรียนมาเข้าค่ายอบรมมักจะเห็นทหารเดินไปเดินมา และมีช่างเห็นทหารเดินถือปืนอยู่รอบโบสถ์ที่กำลังสร้างอยู่ อีกทั้งได้มีคนต่างจังหวัดขอให้น้องเบนซ์ช่วยลูกของเขาให้สอบนายร้อบทหารได้ ปรากฏว่าสอบได้จริง และทุกครั้งถ้าการก่อสร้างอุโบสถ์ติดขัดก็จะขอให้น้องเบนซ์ช่วย และจะมีเงินในการก่อสร้างทันที ทำให้ตอนนี้ชาวบ้านได้หลั่งไหลมาเข้าวัดเป็นจำนวนมาก
สำหรับพลทหาร ยุทธกินันท์ บุญเนียม อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/1 หมู่ 4 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ทหารกองประจำการสังกัด กองร้อย มณฑลทหารบก ที่ 45 สุราษฎร์ธานี ได้รับบาดเจ็บขณะถูกจำขังที่ เรือนจำ มทบ.45 และเสียชีวิตระหว่างรักษาตัวที่ รพ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 1 เม.ย.60 โดยญาติ และมารดา คือนางเรณู หมดราคี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 8 ต.ไทรโสภา อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ได้เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ที่ 45 (มทบ.45) ขณะนั้น เนื่องจากเชื่อมั่นว่าถูกทำร้ายร่างกายภายในเรือนจำ มทบ.45 จนถูกนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ก่อนที่จะเผาจำลอง วันที่ 10 เม.ย.
ในส่วนคดีศาลได้ออกอนุมัติหมายจับจำนวน 9 หมาย และหมายเรียก 1 หมาย ต่อมาในวันที่ 24 เม.ย.ศาลออกหมายเรียก ให้ผู้ต้องหาอีก 1 คนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ต่อมาอัยการศาล มทบ.มีความเห็นสั่งฟ้อง ผู้ต้องหา ทั้ง 11 คน ในวันที่ 28 มิ.ย.60 ทำให้ผู้ต้องหาทั้งหมดตกเป็นจำเลย ถูกคุมขังในคดีเดิมอยู่ที่เรือนจำ และใช้สิทธิประกันตัวไปบางราย คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล มทบ.45