ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์อาจจะไม่จบลงง่ายๆ เสียแล้ว เมื่อทราบว่า นายบำรุง ครัวจัตุรัส อายุ 35 ปี เจ้าของสวน พี่ชายของ "หมอปอ" ได้เตรียมนำหลักฐานทุกๆ อย่างเกี่ยวกับบัตรประชาชน และข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงสมุดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งของ "หมอปอ" มุ่งหน้าเดินทางไปที่ สภ.สลุย โดยมีบิดามารดาไปด้วย เพื่อขอลงบันทึกประจำวันก่อนนำไปให้เจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจเช็กบัญชีของน้องสาว หลังต้องตื่นตระหนกตกใจเมื่อพบว่าวานนี้ (24 ธ.ค.) มีการโอนเงินจากบัญชีน้องสาวไปสู่บัญชีอื่น ทั้งๆ ที่หมอปอ ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีเสียชีวิตไปแล้ว อีกทั้งคนในครอบครัวก็ยังไม่มีใครแตะต้องบัญชีของหมอปอเลย
คดียังไม่จบดี? สุดช็อก เงินบัญชี หมอปอหาย ทั้งๆที่ตายไปแล้ว
โดยนายบำรุง เปิดเผยกับ "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า ตอนแรกตนคิดว่าคดีน่าจะปิดเรียบร้อย เพราะจับคนทำได้หมด ปืนของกลางก็เจอแล้ว จุดเริ่มต้นมันเกิดตั้งแต่วันที่พบศพหมอปอ ในวันที่ 19 ธ.ค. วันนั้นตนเก็บข้าวของและเอกสารทุกอย่างของน้องสาวกลับมาที่บ้าน รวมถึงสมุดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งด้วย แต่วันนั้นไม่พบสมาร์ทโฟนยี่ห้อ "ไอโฟน 8" ของน้องสาว แต่ไม่ได้ติดใจอะไรมาก เพราะมันค่อนข้างวุ่นๆ กันอยู่
"แต่พอวันนี้หลังจากทุกอย่างคลี่คลายแล้ว ผมได้เอาสมุดบัญชีของน้องไปอัพเดต มันขึ้นอย่างชัดเจนว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ก่อนน้องสาวเสียชีวิต 1 วัน มีการโอนเงินจากบัญชีนี้ออกไป จนมีเงินคงเหลืออยู่กว่า 15,000 บาท ก็แปลกใจแต่ไม่คิดมาก นึกว่าน้องสาวอาจจะโอนเงินไปให้ใครสักคน แต่ปัญหาคือ เมื่อวานนี้คือวันที่ 24 ธ.ค. เงินจากบัญชีนี้ถูกโอนออกไปอีกแล้ว ทำให้บัญชีคงเหลือแค่พันกว่าบาท น้องสาวเสียชีวิตไปแล้วจะโอนได้ไง ส่วนไอ้เก่งกับกิ๊กสาวก็ถูกจับกุมเรียบร้อย แล้วใครกันที่กดโอนเงินจากบัญชีนี้ออกไป ผมตกใจมาก"
พี่ชายหมอปอ เผยอีกว่า จากนั้นพอตั้งสติได้ก็รีบโทรฯไปสอบถามจากเจ้าหน้าที่แบงก์ได้รับคำตอบว่า เป็นการโอนเงินผ่านมือถือ จึงมาลองนึกย้อนดูทำให้พบว่าตั้งแต่เกิดเรื่องยันจบเรื่อง ตนยังไม่เห็นสมาร์ทโฟนของน้องเลย ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ใคร ถูกขโมยไป อยู่กับคนรู้จักไอ้เก่ง หรืออยู่ที่ตำรวจ แต่ที่แน่ๆ เงินถูกโอนจากบัญชีด้วยมือถือเครื่องนั้น แบงก์แจ้งว่าระบุบัญชีปลายทางไม่ได้ เพราะเป็นข้อมูลส่วนตัว ต้องให้พ่อแม่มายืนยันเท่านั้น ตนจึงรีบพาพ่อแม่ไปแจ้งความและเอาไปให้ทางแบงก์เช็กบัญชีปลายทางว่าโอนไปที่ใคร