พัทยาโหด-ฆ่าฝรั่ง แทงหน้า เผาบ้าน พรางปม

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 ก.ย. พ.ต.ต.จักรินทร์ ทั่วสุภาพ สารวัตรเวร สภ.อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในบ้านเลขที่ 106/83 หมู่บ้านเอกมงคล 2/1 ซอยเขาตะโล หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย ผกก. พร้อมรถดับเพลิงเมืองพัทยา และเทศบาลเมืองหนองปรือ รวม 10 คัน ไปที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกสร้างบนเนื้อที่ราว 70 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด ในโรงรถมีรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ป้ายแดง จอดอยู่
 

ภายในบ้านมีควันไฟพวยพุ่งออกมาจากห้องนอน

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องพังประตูหน้าที่ล็อกกุญแจไว้อย่างแน่นหนาเข้าไปแล้วระดมฉีดน้ำดับไฟ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเพลิงจึงสงบ ตรวจสอบพบที่นอนและข้าวของ ในห้องถูกไฟไหม้เสียหายเล็กน้อย ขณะเดียวกันพบศพนายเคิร์ท ชูโมลเก้ อายุ 56 ปี ชาวเยอรมัน เจ้าของบ้าน นอนคว่ำหน้าจมเลือดอยู่ปลายเตียง สภาพศพสวมเสื้อ กล้ามสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ศีรษะถูกคลุมด้วยถุงพลาสติกใสแล้วมัดด้วยผ้าขนหนูสีขาวทับอีกชั้น เมื่อแกะผ้าออกพบที่ใบหน้าผู้ตายมีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดบริเวณหน้าผาก แก้มซ้าย และกกหู แต่ละแผลลึกถึงกะโหลก เสียชีวิตมาประมาณ 4 ชั่วโมง ข้างศพพบธนบัตรเงินสกุลยูโร ฉบับละ 500 ยูโร และธนบัตรไทย ฉบับละ 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 100,000 บาท และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาพัทยาใต้ มียอดเงินหมุนเวียนประมาณ 2 ล้านบาท ในที่เกิดเหตุยังพบคราบเลือดกระเซ็นติดอยู่ตามมูลี่หน้าต่างและฝาผนัง 

สอบถามเพื่อนบ้านข้างเคียงให้การว่า เมื่อประมาณ 10 โมงเช้า เห็นหญิงไทยรูปร่างผอมสูง ผิวดำ อายุราว 30 ปี พร้อมด้วยชายชาวต่างชาติ รูปร่างอ้วนใหญ่ สูงประมาณ 180 ซม. ผิวขาว ผมสีทอง มาหาผู้ตายที่บ้าน จากนั้นทั้ง 3 คนก็พากันขึ้นรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กต 1066 ชลบุรี ขับออกจากบ้านไป กระทั่งช่วงบ่ายผู้ตายและเพื่อนชายหญิงก็ขับรถกลับมาที่บ้าน แล้วพากันเข้าบ้านเก็บตัวเงียบ จนถึงช่วงเย็นเห็นรถเก๋งคันเดิมขับออกไป แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนขับ สักพักก็มีควันไฟพวยพุ่งออกมาจากห้องนอน จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่ในซอยพัทยา 14 ห่างจุดเกิดเหตุราว 1 กม. จึงประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าตรวจสอบเก็บรอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายและหลักฐานต่างๆ 

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นอดีตนาวิก โยธิน ประจำเรือฟรีเกต กองทัพเรือเยอรมัน
 
ต่อมาลาออกมาเป็นผู้คุมนักโทษ ระหว่างนั้นเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย และได้ภรรยาเป็นคนไทยชื่อนางไพรวัลย์ จันทรสอน อายุ 35 ปี ขณะนี้พำนักอยู่ในประเทศเยอรมนี ผู้ตายเดินทางเข้าออกเมืองไทยบ่อยครั้ง โดยมาซื้อบ้านหลังเกิดเหตุอาศัยอยู่ได้ราว 5 ปี กระทั่งเมื่อ 3 ปีก่อนผู้ตายลาออกจากอาชีพผู้คุมนักโทษ ล่าสุดเพิ่งเดินทางมาเมืองไทยและเข้าพักบ้านหลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครทราบว่าผู้ตายและภรรยาทำธุรกิจอะไร รู้แต่ว่ามีฐานะดี และเมื่อผู้ตายมาเมืองไทย มักมีเพื่อนชาวต่างชาติและหญิงสาวชาวไทยแวะเวียนมาหาบ่อยครั้ง
 

ก่อนเกิดเหตุเมื่อเย็นวาน ผู้ตายบอกกับเจ้าของร้านโชห่วยที่สนิทสนมกันว่า ถูกเพื่อนชาวต่างชาติคนหนึ่งขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ

จึงอยากให้พาไป แจ้งความกับตำรวจ แต่ยังไม่ทันได้ไปก็มาถูกฆ่าตายก่อน เบื้องต้นตำรวจคาดว่าปมสังหารเกิดจากความขัดแย้งเรื่องทรัพย์สิน และธุรกิจไม่เปิดเผยบางอย่าง คาดว่าอาจเป็นการหักหลังกันในวงการมาเฟียต่างชาติ โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานจากพฤติกรรมการฆ่าอย่างโหดเหี้ยมทารุณ อีกทั้งเมื่อฆาตกรสังหารเหยื่อแล้ว ยังจุดไฟเผาห้องนอนที่เกิดเหตุเพื่อหวังอำพรางคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเรียกภรรยาชาวไทยของผู้ตาย ให้เดินทางกลับมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพื่อคลี่คลายปริศนาฆาตกรรมคดีนี้ต่อไป