‘ปอเปี๊ยะ’พาน.ศ.สาวมหาลัยดังจี้คดี โดนทหารวัย50ขืนใจ โวยตร.พูดจาไม่สุภาพ
มารดาผู้เสียหาย เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเหตุเกิดเมื่อช่วงประมาณปลายปี 2558 แต่ได้รับเรื่องเดือนก.พ.ปี 2559 ลูกถูกรุ่นพี่เป็นทหารข่มขืน แล้วเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง แต่ครั้งแรกไม่ยอมรับแจ้งความ ต่อมาก็รับแจ้งความ แต่ใช้วาจาไม่สุภาพ รวมถึงมหาวิทยาลัยก็พาบุคคลภายนอกที่เป็นนายของผู้ก่อเหตุมาซักถามลูกสาว โดยระหว่างการซักถามไม่มีผู้หญิงอยู่เลย ใช้คำถามเชิงข่มขู่ให้รับว่าสมยอมหรือไม่ มีอะไรกับเขามาแล้วกี่ครั้ง ซึ่งทำให้ตนรู้สึกแย่ ทั้งที่ลูกเป็นผู้ถูกกระทำไม่ใช่ผู้กระทำ นอกจากนี้ยังโดนข่มขู่แล้วนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปประจานให้คนอื่นทราบ
ด้านพล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า เบื้องต้นตนนัดทางมารดาผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม กรณีที่ติดใจการทำงานของตำรวจที่ไม่สุภาพ ไม่อำนวยความสะดวกให้ 2 พื้นที่ ได้แก่ ในพื้นที่สน.ดอนเมือง ที่รับแจ้งความดำเนินคดีข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ลักษณะมีการวางตะปูเพื่อทำให้รถยางแตกระหว่างไปแจ้งความ ซึ่งพนักงานสอบสวนดำเนินการทั้งหมดแล้ว ส่วนข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังในมหาวิทยาลัย เหตุเกิดพื้นที่สน.บางเขน ซึ่งเป็นกรณีที่อาจารย์มหาวิทยาลัย รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง 3 รายเรียกผู้เสียหายไปพูดคุย ในส่วนนี้ได้ดำเนินคดีทั้งหมดแล้วเช่นกัน โดยในส่วนของคดีข่มขืน ทั้งผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุก็ยอมความกันแล้ว นอกจากนี้ยังมีคดีในสน.ยานนาวา ที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท กรณีเพื่อนผู้ก่อเหตุโพสต์ข้อความผ่านโซเซี่ยลมีเดียทำให้เกิดความเสียหาย เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินคดีแล้วด้วย แต่ถึงอย่างไรได้สั่งการให้พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รองผบช.น. ดูแลงานจเรตำรวจ ตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับทางพนักงานสอบสวนงหมดว่ามีความบกพร่องหรือไม่
พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้เสียหายมีความสัมพันธ์กับผู้ก่อเหตุอย่างไร ทางผู้ก่อเหตุเป็นนายทหารชั้นประทวนอายุประมาณ 50 ปี รู้จักกับผู้เสียหายผ่านกิจกรรมการเล่นดนตรี ส่วนถูกกระทำหรือสมยอมนั้น ไม่ขอตอบ เพราะกรณีดังกล่าวจบลงไปแล้ว แต่พ่อแม่ติดใจเรื่องการทำงานของตำรวจ จึงสั่งการตั้งคณะกรรมตรวจสอบการกระผิดทางวินัยว่าบกพร่องตรงส่วนใดบ้าง โดยให้รายงานผลมาโดยเร็วที่สุด