บุกค้น10จุดจับ‘ทอมมี่ วู’หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์120ล้าน (คลิป)
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด ซึ่งก่อเหตุในพื้นที่สน.หัวหมาก ตำรวจจึงขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 7 ราย จับกุมได้ 3 ราย คือนายทอมมี่ วู สัญชาติอินโดนีเซีย หัวหน้าแก๊ง ตัวการใหญ่ของเครือข่ายฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา ส่วนนายจิรวัฒน์ กล่อมบาง นายจิรพัฒน์ คณารุจินานนท์ จับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนอีก 4 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น พร้อมประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือป.ป.ง.ตรวจสอบและอายัดธุรกรรมทางการเงิน นายทอมมี่ สัญชาติอินโดนีเซีย มีพฤติการณ์ชักชวนคนไทย 7-8 คน ก่อเหตุในลักษณะขบวนการคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหาย โดยใช้ประเทศฟิลิปปินส์และประเทศใกล้เคียงเป็นฐานในการกระทำความผิด
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การปฏิบัติการกวาดล้างครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ภายใต้การนำของ ผบ.ตร. และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ 191 ฯลฯ นอกจากนี้ ยังได้ประสานป.ป.ง. ร่วมกันตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั้งสิ้น 10 จุด ตรวจยึด และอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและผู้ร่วมขบวนการ เป็นบัญชีธนาคารกว่า 77 บัญชีจำนวนเงิน 77 ล้านบาท รถยนต์จำนวน 6 คัน และอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวน 2 แห่ง มูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้รวม 120 ล้านบาท
โดยพฤติการณ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่วนใหญ่มักจะแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ธนาคาร โดยใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือของหน่วยงานรัฐ โทรเข้าไปหลอกลูกค้าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่ป้องกันลำบาก เพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็มีช่องทางในการหลอกลวง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนได้รับรู้ว่า มีขบวนการลักษณะนี้เกิดขึ้นถ้ามีบุคคลแอบอ้างขอ บัญชีธนาคารหรือให้ทำธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ อย่าหลงเชื่อส่วนประชาชนที่มีพฤติการณ์รับจ้างเปิดบัญชีจะทราบหรือไม่ทราบก็ตาม ขอให้หยุดการกระทำ เพราะหลังจากนี้จะให้ชุดสืบสวนสอบสวนเร่งตรวจสอบและดำเนินคดีกับทุกรายที่ตรวจสอบเจอ
นายพีระพัฒน์ อิงพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี1 ป.ป.ง. กล่าวว่า ป.ป.ง. เตรียมคืนเงินที่อายัดจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้กับผู้เสียหาน 4 ราย เหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.จอหอ สภ.เมืองสงขลา สน.ปทุมวัน และ สน. คลองตัน วงเงินได้ประมาณ 2,000,000 กว่าบาท โดยหนึ่งในผู้เสียหายเป็นครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น
กรณีนี้ผู้เสียหายโทรมาที่สายด่วน ป.ป.ง.1710 ทำให้เจ้าหน้าที่ทำการอายัดบัญชีจากคนร้ายได้ทัน แต่ก็อายัดคืนได้ไม่หมด เนื่องจากคนร้ายทำธุรกรรมในการถอนเงินออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้อายัดคืนได้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น โดยจะคืนให้กับผู้เสียหายภายใน 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ทางป.ป.ง.กำลังจับตาบัญชีธนาคารต้องสงสัยประเทศทั่วประเทศ ที่อาจเข้าข่ายเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีประมาณ 400,000 บัญชีทั่วประเทศ เนื่องจากพบพฤติการณ์การถอน การโอน การเปิดบัญชี อย่างน่าสงสัย ซึ่งจะต้องตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางหลอกลวงประชาชนได้Cr:::khaosod.co.th