รวบนางโจรวางแผนกับสามี ฆ่าชิงทรัพย์เศรษฐีนีพังงา

ปิดคดีฆ่าชิงทรัพย์เศรษฐีนีพังงา เจ้าของสวนยางพารา หลังตำรวจตามรวบตัวนางโจรสาวร่วมวางแผนก่อเหตุกับสามีได้คาโรงแรมกลางเมืองสุราษฎร์ธานี ขณะหลบหนีได้นานร่วม 8 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกเข้าชิงทรัพย์ในบ้านเลขที่ 38/4 ม.1 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.พังงา ซึ่งเป็นบ้านพักนางสุนี ภู่ต้อง เศรษฐีนีเจ้าของสวนยางพารานับพันไร่และฆ่านางสุนี เสียชีวิตและนายอรุณ ภู่ต้อง สามีของนางสุนี ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์อยู่ในบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ รวมทั้งปืน.38 รีวอลเวอร์ เลขทะเบียน กท.4707678

ต่อมาตำรวจ สภ.อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ได้จับกุมตัวนายอุทิศ แสนทวีสุข อายุ 49 ปี

บ้านเลขที่ 151/2 ม.7 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ในข้อหาพยายามฆ่านางจิราพร สุทธิมาศ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.3 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ภรรยาของตนเอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2550 ขณะนี้ควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี
 

โดยจากการตรวจสอบอาวุธปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุตรงกับอาวุธปืนที่ทาง สภ.อ.เมืองพังงา แจ้งอายัดเอาไว้ ทางตำรวจ สภ.อ.คีรีรัฐนิคม จึงประสานมาที่ พ.ต.ท.สวงษ์ ปิ่นนิล รอง ผกก.สส.สภ.อ.เมืองพังงา จากนั้น พ.ต.ท.สวงษ์ จึงได้เดินทางไปร่วมสอบสวนผู้ต้องหาคนดังกล่าวที่เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี จนกระทั่งนายอุทิศ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนางจิราพร ร่วมกันฆ่าชิงทรัพย์นางสุนี ที่จังหวัดพังงาจริง
 
ทาง พ.ต.ท.สวงษ์ จึงได้ขอความร่วมมือผู้ต้องหาให้ติดต่อนางจิราพร เพื่อต้องการจับกุมตัว นายอุทิศจึงได้ให้เบอร์โทรศัพท์ของนางจิราพร แก่ พ.ต.ท.สวงษ์

จากนั้นจึงโทรศัพท์หานางจิราพร และบอกว่าเป็นทหารอยู่ อ.ทุ่งสง และเคยรู้จักนางจิราพร พร้อมกับพูดจาเกี้ยวเชิงชู้สาว จนนางจิราพรตายใจและนัดให้ไปหาที่โรงแรมบรรจง ในช่วงเที่ยงวันนี้ (8 ก.ย.) ซึ่งอยู่ภายในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี โดยทราบว่านางจิราพร ได้มาเป็นลูกจ้างชั่วคราว แผนกรังวัดที่ดินของของสำนักงานที่ดิน อ.ตาขุน

ซึ่งในวันนี้ทางสำนักงานที่ดินอำเภอตาขุน ได้จัดสัมมนาที่โรงแรมดังกล่าว โดยนางจิราพรเดินทางไปร่วมด้วย ทาง พ.ต.ท.สวงษ์ จึงประสานให้ ด.ต.นรากร แสวงจิตร ผบ.หมู่ ศ.สส.ภ.8 นำกำลังเข้าจับกุมตัวนางจิราพร ได้ในที่สุด ซึ่งนางจิราพร ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่ง พ.ต.ท.สวงษ์ เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

พ.ต.ท.สวงษ์ กล่าวว่า นับว่าเป็นการปิดคดีฆ่าชิงทรัพย์รายนี้ได้อย่างสมบูรณ์

หลังที่ใช้เวลามานานร่วม 8 เดือน ซึ่งพฤติกรรมของนางจิราพรนั้น นับว่ามีประวัติที่ร้ายกาจพอสมควร โดยในปีเดียวกันก่อนที่จะมาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ที่พังงา ได้ร่วมกันกับพวกที่เป็นผู้ชายปล้นบ้านแห่งหนึ่งในเขต อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้ทรัพย์สินไปนับแสนบาท โดยครั้งนั้นได้สร้างความแค้นให้นางจิราพรมาก เพราะเพื่อนชายที่ร่วมแก๊งไม่แบ่งสันปันส่วนทรัพย์สินให้

นางจิราพรจึงให้นายอุทิศ สามีของตนเองไปทวงทรัพย์สินจากเพื่อนร่วมแก๊ง แต่ทางสามีปฏิเสธ นางจิราพรจึงได้บอกว่า หากไม่ไปทวงให้ ก็ขอให้ไปปล้นบ้านนางสุนี ที่ จ.พังงา เพื่อเอาทรัพย์สิน ซึ่งนางจิราพรทราบมาว่า นางสุนีมีทรัพย์สินเก็บซุกซ่อนไว้ที่บ้านจำนวนมาก เนื่องจากเคยมาเป็นคนรับจ้างกรีดยางพาราอยู่ในละแวกดังกล่าว ทำให้นายอุทิศ ผู้เป็นสามียินยอมและวางแผนเข้าก่อเหตุดังกล่าว