วงเงินสะพัด! เปิดโครงสร้างล้มบอล,สมยศลั่นล้างบาง-ซิโก้มองดาบสองคม
โดยสมาคมฯได้รับเบาะแสว่า มีเกมการแข่งขันบางคู่ มีความน่าสงสัยว่าจะมีกำหนดผลการแข่งขันล่วงหน้า เช่น มีการเสียประตูช่วงท้ายเกมแบบผิดปกติ จึงได้มอบหมายให้ สนง.ตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามขบวนการล้มบอลจนพบหลักฐานว่า มีเบื้องหลังจากเว็บไซต์พนันฟุตบอลต่างประเทศ ได้ดำเนินผ่านตัวแทนในไทย เพื่อติดต่อกับ ผู้บริหารทีม, ผู้ตัดสิน หรือนักฟุตบอล ให้มีกำหนดผลการแข่งขันล่วงหน้า หรือล็อคสกอร์ เพื่อให้ผลตามที่นายทุนต้องการ
ซึ่งจากการสอบสวน ได้มีการยอมรับสารภาพว่าได้รับเงินจากตัวแทนให้การแข่งขันล็อคผลสกอร์จริง นำมาสู่การขยายผลและพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยได้ยื่นต่อศาลอาญา รัชดาภิเษก เพื่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับการล้มบอลซึ่งมี 12 รายด้วยกันมีดังนี้
นักฟุตบอลอาชีพ 5 ราย
1.นายสุทธิพงษ์ เหลาพร (ราชนาวี เอฟซี)
2.นายณรงค์ วงษ์ทองคำ ผู้รักษาประตู (ราชนาวี เอฟซี)
3.นายสุวิทยา นำสินหลาก (ราชนาวี เอฟซี)
4.นายเสกสันต์ ชาวทองหลาง (ราชนาวี เอฟซี)
5.นายวีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตู (นครราชสีมา มาสด้าเอฟซี)
กรรมการผู้ตัดสิน (ฟีฟ่า) 1 ราย
นาย ภูมิรินทร์ คำรื่น
ไลน์แมน 1 ราย
นายธีรจิตร สิทธิศุข
ผู้บริหารสโมสร 1 ราย
นาย เชิดศักดิ์ บุญชู ผู้อำนวยการสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี
กลุ่มนายทุนหรือตัวแทนนายทุน 4 ราย
1.นายวัลลภ สมาน
2.นายกิตติภูมิ ปาภูงา
3.นายมานิตย์ หรือ เศรษฐปสิทธิ์ โกมลวัฒนะ
4.นายภาคภูมิ พันธ์นิกุล
"มีคำถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว วงการฟุตบอลจะตกต่ำ เสื่อมเสีย หรือเสียความเชื่อถือไหม ผมขอเรียนว่าถ้าการล้มบอลเปรียบเสมือนโรคร้าย เรารู้ว่ามันมีก็ต้องรักษา ถ้ารู้ว่าเป็นมะเร็งร้ายก็ต้องผ่าตัด การผ่าตัดมันก็ต้องเจ็บ แต่ก็มีโอกาสหาย แต่ถ้าไม่รักษาปล่อยให้อยู่กับเราไปเรื่อยๆก็รอวันตาย ซึ่งผมกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประเมินผลได้ผลเสียมาแล้ว ซึ่งผลเสียมันมีมากกว่า ดังนั้นเราจะไม่รอวันตายเหมือนประเทศเพื่อนบ้าน"
"ขบวนการของบุคคลเหล่านี้จัดตั้งกันครบวงจร ทั้งนายทุนในประเทศไทยและนายทุนต่างประเทศ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญเจ้าหน้าที่, ผู้ตัดสิน และบุคคลที่อยู่ในข่ายมา สอบปากคำ มาซักถาม ทุกคนยืนยันว่ามีจริงและมีมานานแล้วแต่ไม่ได้รับการแก้ไข"
"วันนี้ทุกคนกล้าพูดกล้าเปิดเผย เพราะทุกคนรู้ว่าการทำงานของตำรวจมันปกปิดไม่ได้ และหลังจากนี้ 12 คนที่ออกหมายจับไม่ได้หมดแค่นี้ ถ้ามีหลักฐานเชื่อมโยงก็จะสืบสาวต่อไป" นายกสมาคมฯกล่าว
เกี่ยวกับ เปาภูมิรินทร์ คำรื่น ซึ่งเป็น1 ในผู้ตัดสินของสมาคม และ ฟีฟ่านั้น พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยว่า
"นักฟุตบอล หรือผู้ตัดสิน ที่ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี หรือมีมลทินแล้ว ผมคงไม่กล้าให้ลงมาทำหน้าที่ หรือให้ลงมาเล่นหรอกครับ ถ้าผมทำอย่างนั้น ผมก็โดนเละสิ (หัวเราะ) ต้องว่ากันต่อ ตามคดีความ และกระบวนการของศาล"
"จริงๆ เขา (ภูมิรินทร์ คำรื่น) เป็นผู้ตัดสินที่มีประสิทธิภาพดี เราเองก็ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน เพราะเขาไม่เคยถูกลงโทษ หรือถูกร้องเรียน ยอมรับว่าเสียดาย แต่ในเมื่อมันมีหลักฐานชัดเจน เราคงไม่ปกป้อง เขาก็ได้แต่มาสำนึกผิด เพราะคิดไม่ถึงว่าจะมีการตรวจสอบกันได้""มันคงยากที่จะให้เขากลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง เพราะถ้าผมให้เขาลงไปตัดสินใคร ผู้ที่ลงทำการแข่งขันในเกมนั้น คงไม่สบายใจ ในเมื่อเรามีตัวเลือกที่ดีเหมาะสมกว่า ที่ดีกว่า ทำไมเราต้องกลับไปใช้ ของที่มีตำหนิ ข้อบกพร่อง และสร้างความไม่สบายใจด้วย แล้วถ้าเกิดเรื่องไม่ดีงามอีก คนที่ไปเอาเขากลับมาต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่งเราคงบอกรับผิดชอบไม่ไหว"
"ส่วนเรื่องการที่เขาเป็น ผู้ตัดสินประจำสมาคมฯ เพราะว่าเขาเข้าเกณฑ์คุณสมบัติ ก็คือไม่มีงานประจำที่ดี และผลประเมินที่ดี ผมว่าสื่อสมัยนี้มันเร็ว ผมแถลงตอนนี้ที่ไทย ป่านนี้ ฟีฟ่า เอเอฟซี ก็คงรับรู้แล้ว เพราะสปอร์ตเรด้าร์ ก็ทำงานกับเอเอฟซี "
ด้าน "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีดหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เผยว่าการล้มบอลเป็นวงจรอุบาทเป็นสิ่งที่ทำลายวงการฟุตบอลไทยอยู่แล้ว การเป็นนักเตะต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพตัวเองยิ่งอาชีพนักฟุตบอลเสมือนอาชีพหมาล่าเนื้อ ยิ่งต้องซื่อสัตย์กับมัน การจับได้ครั้งนี้เหมือนเป็นดาบสองคมเหมือนกัน อย่างแรกก็เป็นการกำจัดมะเร็งร้ายให้หมดไปซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่อีกมุมหนึ่งความน่าเชื่อถือจะลดน้อยลง ซึ่งอาจมีผลไปถึงการเข้ามาสนับสนุนสโมสรฟุตบอลอาชีพของภาคเอกชนด้วย
"ที่ผ่านมาผมบอกน้องๆ นักฟุตบอลเสมอถึงการเป็นนักเตะ ยิ่งเป็นทีมชาติแล้วยิ่งจต้องทุ่มเทเป็นเท่าตัว ส่วนตัวผมเองไม่อยากเห็นลีกประเทศไทยเป็นเหมือนฟุตบอลลีกมาเลเซีย ที่เขามีการกำจัดนักเตะที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มบอลไปกว่า 200 คน ซึ่งกว่าจะสร้างนักเตะได้ขนาดนั้นต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี"
โดย นายเทวัญ กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้สมาคมฟุตบอลฯ ได้แจ้งมายังสโมสรว่าจะมีการตรวจสอบการทุจริตการแข่งขันของแต่ละสโมสร ซึ่งเราก็ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ จนมาทราบในภายหลังว่ามีผู้รักษาประตูของเราเกี่ยวข้อง ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจ แต่ยืนยนัว่าสโมสรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว"
"ในส่วนของ วีระ เพิ่งย้ายมาร่วมทีมได้ประมาณ 6 เดือน ยอมรับว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ฝีมือดี แม้ว่าในช่วงหลังจะมีเรื่องแปลกที่ทีมมักจะเสียประตูในช่วงท้ายเกมบ่อยครั้ง แต่ก็ยังมั่นใจในตัวนักเตะว่าจะมีความเป็นมืออาชีพ เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนี้ ทีมจำเป็นต้องยกเลิกสัญญากับเจ้าตัว แม้จะเพิ่งต่อสัญญาไปเมื่อไม่นาน"
นอกจากนี้ นายใหญ่สวาทแคท ยังเผยถึงมาตรการณ์ในการป้องกันไม่ให้นักเตะล้มบอลในฤดูกาลต่อไปว่า "ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวส่งผลต่อจิตใจของนักเตะทุกคนในทีม เพราะเล่นด้วยกันตลอด แต่โชคดีที่เรื่องเกิดในช่วงการพักเลก ส่วนหลังจากนี้ในสัญญาจะมีการระบุชัดเจนว่าห้ามนักกีฬาข้องเกี่ยวกับการพนัน และจะเรียกค่าเสียหายหากมีการพัวพันกับการล้มบอล"