ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 3 บ้านสระครก ต.หนองบัวสะอาด อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา นายสัมฤทธิ์ ได้นำศพน.ส.ชุติมา มาตั้งประเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด หลังได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กงสุลไทยในประเทศเกาหลีใต้ ช่วยประสานงานกับบริษัทจองซิน เขตฮันยอง ประเทศเกาหลีใต้ ที่น.ส.ชุติมาทำงานอยู่ออกค่าใช้จ่ายเป็นเงินประมาณ 4 ล้านวอน ซึ่งคิดเป็นเงินไทยประมาณ 120,000 บาทในการส่งศพกลับประเทศไทยมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวและเพื่อนๆ
นายสัมฤทธิ์ เปิดเผยว่า ครั้งแรกที่เห็นศพลูกสาวตนจำแทบไม่ได้เพราะใบหน้ามีบาดแผล โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากถูกตีด้วยของแข็งจนหน้าผากยุบ เบ้าตามีแผล และฟันหน้าหักหายไปทั้งแถบ ส่วนทรัพย์สินบางอย่างที่ติดตัวลูกสาวได้หายไปด้วยทั้ง สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท สร้อยข้อมือ 1 เส้น โทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง ส่วนทรัพย์สินที่ได้คืนคือเงินไทย 700 บาท เงินดอลล่า 22 ดอลล่า และเงินวอนอีก 15,000 วอน