คุม นางงามโมนา ฝากขัง ให้การซัดทอดสาวทอมฆ่าน้องน้ำ
จากกรณีการพบศพ น.ส.จริยา ศรีศักดิ์ หรือ "น้องน้ำ" อายุ 16 ปี ที่ถูกฆ่าฝังดินอำพรางไว้ใต้ต้นตาลในไร่ ซอยศาลาลอย 4 บ้านนามอญ หมู่ที่ 7 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยก่อนหน้านี้ นางจันทิรา ศรีศักดิ์ มารดา เข้าร้องทุกข์กับ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่าลูกสาวเคยไปทำงานเป็นลูกจ้างแล้วฝ่ายนายจ้างอ้างว่าน้องน้ำหนีออกจากบ้านแล้ว กระทั่งผ่านไป 5 ปี ยังไม่มีความคืบหน้าจนมีพบกระดูกดังกล่าว ภายหลังการสืบสวนพบว่า น.ส.กฤษณา สุวรรณพิทักษ์ หรือ "โมนา" อายุ 45 ปี นายจ้างสาวของน้องน้ำ เป็นผู้รู้เห็นเกี่ยวกับการตายจึงเข้าจับกุมดำเนินคดีตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่กองปราบปราม พ.ต.ต.ธีรพจน์ คงหนู สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ป. ได้คุมตัว น.ส.กฤษณา สุวรรณพิทักษ์ หรือ "โมนา" อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาเดินทางไปยื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น มีกำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 6-17 พ.ย.นี้ เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ หากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว เกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานต่างๆ ในคดี และยังคงต้องรอผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอชิ้นส่วนศพผู้เสียชีวิต เพื่อเปรียบเทียบยืนยันว่าเป็นศพของ น.ส.จริยา หรือไม่ รวมทั้งยังคงต้องสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้เพิ่มเติม...
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า น.ส.กฤษณา ได้ให้การซัดทอดว่าคนฆ่าน้องน้ำคือสาวทอมคนสนิทชื่อ น.ส.เมาท์ อายุ 32 ปี โดยเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ขณะที่น.ส.เมาท์ แวะมาพักที่บ้านของ น.ส.กฤษณา ได้ลงมือทุบตีน้องน้ำจนฟกช้ำดำเขียวไปทั่วตัวโดยไม่รู้ว่าเด็กทำผิดอะไร กระทั่งเช้าวันที่ 11 เม.ย. จึงพบว่าน้องน้ำนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เมื่อเข้าไปดูว่าพบว่าเสียชีวิตไปแล้ว ด้วยความกลัว น.ส.กฤษณา จึงโทรศัพท์ไปหาน้องชายชื่อ นายบอย เพื่อปรึกษาว่าจะทำอย่างไรก็ศพ...
สำหรับผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐาน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดร่วมด้วยหรือไม่นั้น ประกอบด้วย น.ส.ปรารถนา หรือ เม้าท์ ท้วมทรัพย์ น.ส.ปนัดดา หรือ ฟาร์ สุวรรณพิทักษ์ น.ส.ธีรดีย์ หรือ เฟียร์ ทองมี และ นายปราโมทย์ หรือ บอย สุวรรณพิทักษ์ ในเบื้องต้นก่อนหน้านี้ได้มีการสอบปากคำทั้งหมดไว้ในฐานะพยานแล้ว....
Cr::dailynews.co.th