ตร.เหยื่อลูกน้องนักการเมือง แฉอดีตนาย-จ้องเล่นงานคืน

สั่งฟันอาญาเซ่นตร.ใส่เครื่องแบบ กราบผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ด้าน“ส.ต.อ.”เหยื่อบาทา เปิดใจอึดอัดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยไม่อยากออกไปไหน แฉอดีตผู้บังคับบัญชาจ้องเล่นงานคืน อ้างเมาเหล้าขณะปฏิบัติหน้าที่ (7กย.) พล.ต.ต.อำนวย มหาผล รอง ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.วราสิทธิ์ พรเลิศ ผบช.ภ.3 ให้เดินทางมาดูแลการสืบสวนสอบสวนว่าข้อเท็จจริง และต้องสอบให้รู้ว่านายตำรวจคนใด สั่งให้ ส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี กราบเท้านักการเมืองท้องถิ่นทั้งที่อยู่ในเครื่องแบบตำรวจ ในคดีดังกล่าวเพื่อให้ตำรวจชั้นประทวนได้มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

โดยในคดีนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ชาลี เทพา รอง.ผบก.ภ.จว.ยโสธร เป็นประธานการสอบสวน

ต้องหาข้อเท็จจริงมาให้ได้ตามที่ผู้ต้องหาคือนายวิโรจน์ ใจพรมเมือง รับสารภาพว่าเป็นคนทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ เพื่อตอบแทนบุญคุณ และการตอบแทนบุญคุณนั้นทำเพื่อใคร และนายอุดร สารคำ ที่ให้การปฏิเสธ และตัวนายสถิรพร นาคสุข นายก อบจ.ก็ออกมาระบุว่าไม่ใช่ลูกน้องของตนและไม่เคยรู้จักนั้นเป็นจริงหรือเท็จ ด้านนายวิโรจน์ ใจพรมเมือง ผู้ต้องหาที่รับสารภาพว่าเป็นคนทำร้าย ส.ต.อ อาทิตย์ แดงดี จนสลบ พ.ต.ต.ประสิทธิ์ เพชรรัตน์ เจ้าพนักงานสอบสวน สภอ.เมืองยโสธร ได้นำส่งพนักงานอัยการจังหวัดยโสธรเพื่อฟ้องศาลแล้ววันนี้ (7 ก.ย.)

หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตนก็รู้สึกเสียใจที่เรื่องบานปลายจนมีการสั่งย้ายทั้งผบก. ผกก. สวป.และพนักงานสอบสวน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไป หลังเกิดเหตุยอมรับว่ามีปฏิกิริยาจากอดีตผู้บังคับบัญชาคนหนึ่ง จ้องที่จะเล่นงานโดยพยายามอ้างว่าตนดื่มเหล้าขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมันไม่เป็นความจริง เพราะในวันเกิดเหตุตนไม่ได้ดื่มเหล้าแต่อย่างใด

“ที่ผ่านมาเพื่อนตำรวจด้วยกันก็ให้กำลังผมเป็นอย่างดี นอกจากนี้ประชาชนทั่วไปก็ให้กำลังใจเช่นเดียวกัน โดยได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามที่ศูนย์วิทยุอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ซึ่งก็รู้สึกปลื้มใจที่มีกำลังใจมากมายขนาดนี้ ต่างกับที่ผ่านมาที่ประชาชนมักจะด่าตำรวจในเรื่องเสีย ๆ หาย ๆ “ส.ต.อ.อาทิตย์กล่าว
 

ส.ต.อ.อาทิตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องจะมีการฟ้องผู้บังคับบัญชากลับหรือไม่นั้น เรื่องนี้ยังไม่ขอให้ความเห็น

เพราะได้ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฏหมาย และขั้นตอนการดำเนินงานของผู้บังคับบัญชาว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร ส่วนตนก็คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอัยการ เพราะขณะนี้เท่าที่ทราบสำนวนการสอบสวนคดีนี้ได้ถูกส่งไปยังอัยการแล้ว

“ตอนนี้รู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจมาก เพราะเรื่องได้บานปลายไปใหญ่แล้ว จนไม่กล้าเดินไปตลาด เพราะเกรงทั้งฝ่ายอดีตผู้บังคับบัญชา ฝ่ายตรงข้ามที่ขณะนี้พยายามใส่ร้ายป้ายสีผม และพยายามทำให้ประชาชนสับสนเข้าใจผิด โดยกล่าวหาว่าผมเมาเหล้าในการปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่อยากออกไปไหน ขณะเดียวกันก็อยากให้ยุติเรื่องนี้โดยเร็ว และรอเพียงการดำเนินการของอัยการเท่านั้น”ส.ต.อ.อาทิตย์ กล่าว