เมื่อวันที่ 28 ต.ค. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดี น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย ผอ.กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวไปเมื่อ วันที่ 3 ก.ค2560 ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทีมสืบสวนสอบสวน สภ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เป็นจุดที่พบศพ รอผลการตรวจดีเอ็นเอจากทางสถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ จากกะโหลกและกระดูกต้นขา ที่พบในพื้นที่สภ.น้ำยืน ว่าตรงกันกับ ผอ.อ้อยหรือไม่ เบื้องต้นทางสถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ยืนยันว่าผลการตรวจดีเอ็นเอตรงกัน โดยการเก็บดีเอ็นเอจากกระพุ้งแก้มของพ่อและแม่ จากนี้ทางสถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ จะส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำยืน และส่งผลรายงานตรวจดีเอ็นเอต่อไปยัง สภ.กันทรลักษ์ ให้พนักงานทีมสืบสวนสอบสวนเจ้าของคดีทราบต่อไป โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. กันทรลักษ์ เตรียมประชุม และจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมจากเดิมที่แจ้งในเรื่องการปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารปลอม และเมื่อได้รับผลการตรวจดีเอ็นเอ ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมโดยเฉพาะการฆาตกรรม การวางแผนฆาตกรรม และซ่อนเร้นอำพรางศพ หรือข้อหาอื่นๆ
ที่บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี นางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 60 ปี พ่อและแม่ของ น.ส.จุฑาภรณ์ มีบรรดาญาติพี่น้องและชาวบ้านซำเม็งพากันมาติดตามข่าว หลังจากทราบผลการตรวจดีเอ็นเอจากชิ้นเนื้อกะโหลกและกระดูกต้นขา ว่าตรงกับ ผอ.อ้อย ซึ่งบรรดาญาติพี่น้องต่างดีใจที่เจอศพ หลังจากออกค้นหา ผอ.อ้อยมานานกว่า 3 เดือนแล้ว จนกระทั่งมาพบว่า ผอ.อ้อยเป็นศพถูกทิ้งอยู่กลางป่าในสภาพที่น่าเวทนา เนื่องจากเหลือเพียงโครงกระดูก กะโหลกศีรษะ เส้นผม เข็มขัดราชการ นาฬิกาข้อมือสีดำ
นางแหลมกล่าวว่า ตนไม่แปลกใจหรือตื่นเต้นดีใจที่ดีเอ็นเอตรงกันกับดีเอ็นเอของ ผอ.อ้อย เนื่องจากตนและครอบครัว ญาติพี่น้องทุกคนมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าศพที่พบคือศพของ ผอ.อ้อยอย่างแน่นอน หลังจากที่ตนและครอบครัวได้รับศพกลับมา จะนำศพ ผอ.อ้อยมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเลขที่ 36 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.หมายปอง อุ่นอ่อน อายุ 39 ปี พี่สาวของ ผอ.อ้อย เนื่องจากว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ ผอ.อ้อยจัดพิธีแต่งงานกับนายวิทยา เกษแก้ว สามี และเป็นบ้านที่ ผอ.อ้อยอยู่ มาตลอด นับตั้งแต่ย้ายกลับมาจาก จ.เชียงใหม่ โดยจะตั้งศพบำเพ็ญกุศล 3 วัน จากนั้นจะนำศพ ผอ.อ้อยไปฌาปนกิจที่วัดบ้านซำเม็ง ที่เป็นวัดอยู่ภายในหมู่บ้านต่อไป
ส่วนเรื่องคดีความ มั่นใจว่าหลักฐานแน่นหนาชัดเจนขนาดนี้ ผู้ต้องหาคดีนี้คงไม่สามารถที่จะหลุดรอดไปได้ แต่เป็นห่วง ผู้ต้องหาอาจจะหลบหนีคดี จึงต้องขอความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้พนักงานสอบ สวนส่งตัว ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีนี้ 8 ข้อหา ไปฝากขังผัดที่ 1 ที่ศาล จ.กันทรลักษ์ ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.60 ที่ผ่านมา และจะครบกำหนดฝากขังผัดที่ 2 ในวันที่ 30 ต.ค.60 นี้
หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของ ผอ.อ้อยแล้ว พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้กองเหน่ง คือ ข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพ ซึ่งคาดว่าพนักงานสอบสวนและพ่อแม่ของ ผอ.อ้อยจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากว่าเป็นข้อหาที่ร้ายแรงมาก และคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งหากได้รับการประกันตัวอีก เกรงว่าอาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน รวมทั้งหวั่นเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีอีกด้วย