ผงะ!! พบชิ้นส่วนมนุษย์ในบ่อน้ำบ้านร้าง

จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมา ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ร้างชั้นเดียวภายในบ้านสร้างเป็นบ่อปูนซิเมนต์เก็บกักน้ำไว้ใช้ขนาดความกว้าง 10 เมตร ยาว 10 เมตร ลึก 2 เมตร 50 เซนติเมตร ภายในบ่อพบกระโหลกศีรษะและกระดูกของมนุษย์จมอยู่ใต้บ่อ โดยก่อนหน้านั้น นายวัชรพงศ์ แขนอก อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 999/74 หมู่ที่ 11 ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมาผู้พบกระโหลกศีรษะและกระดูกมนุษย์พึ่งจะซื้อบ้านหลังดังกล่าวนี้พร้อมที่ดิน 4 ไร่ ต่อจากนายเสงี่ยม เชียงนอก อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 665 ถ.พายัพทิศ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา ในราคา 4 ล้านบาท โดยมีโครงการจะปลูกกล้วยหอมทองส่งจำหน่าย ได้นัดหมายมาจ่ายเงินในส่วนที่เหลืองวดที่สอง จำนวน 1 ล้านบาท และก่อนจ่ายเงินนายเสงี่ยม เจ้าของบ้านเดิมได้นัดหมายกับนายวัชพงศ์ เพื่อมาเปิดบ้านร้างดังกล่าวสำรวจทรัพย์สิน โดยก่อนเข้าไปในบ้านนายเสงี่ยมฯพบว่าประตูมีร่องรอยการใช้อุปกรณ์ตัดหูกระต่ายคล้องกุญแจจนมีสนิมขึ้นและขณะที่นายวัชรพงศ์ กำลังเดินสำรวจทรัพย์สินภายในบ้านก็ได้เปิดฝาถังปิดบ่อน้ำขึ้นถึงกับผงะพบกระโหลกศีรษะและกระดูกมนุษย์จมอยู่ในบ่อน้ำดังกล่าว จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา เข้าไปตรวจสอบและแจ้งหน่วยประดาน้ำของหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาลงงมชิ้นส่วนมนุษย์ขึ้นมาให้แพทย์พิสูจน์

แต่จากการสอบถามชาวบ้านในระแวกนี้ได้มีการแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เมื่อ 8 ปี ที่ผ่านมา เป็นผู้ชายอายุขณะนั้น 33 ปี แต่ก็ยังไม่ทราบว่าเป็นชิ้นส่วนของบุคคลนั้นหรือไม่ต้องรอผลการพิสูจน์ก่อนและเมื่อทราบแล้วว่าชิ้นส่วนมนุษย์เป็นของใครตำรวจก็จะต้องสืบสวนสอบสวนขยายผลหาสาเหตุของการเสียชีวิตของบุคคลดังกล่าวต่อไป