ตะลึงทั้งงาน น้องพลอยสิงร่างทรง ออกปากเตือนแม่ หยุดให้ข่าว-ระวังอันตราย...

เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ฌาปนสถานวัดกลางเขตเทศบาลตำบลท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิฑิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือเป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพน.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือน้องพลอย อายุ 28 ปีที่ถูกนายพลกฤต วิเศษ (เอส)อดีตสิบเอกทหาร บีบคอจนเสียชีวิตและนำศพไปเผาทำลาย

ซึ่งระหว่างการเคลื่อนหีบศพออกจากศาลาเพื่อไปตั้งยังฌาปนสถาน นางพัชรีผู้เป็นแม่และนายวิชา พ่อได้เดินนำหน้าถือรูปของน้องมาด้วยสีหน้าเศร้าโศกโดยเฉพาะนางพัชรี ยังทำใจไม่ได้ ร้องไห้น้ำตาคลอมาเป็นระยะ มีหลานๆร่วมบวชสามเณรหน้าไฟ จำนวน 3 รูป และเมื่อตั้งรูป พ่อได้พูดขึ้นมาว่าหลับให้สบายลูกพลอยไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่ ส่วนแม่ยังได้ก้มลงไปจูบที่รูปของลูกอีกครั้งโดยบอกกับลูกว่า แม่รักน้องพลอยมาก แม้ว่าวันนี้น้องพลอยต้องจากไปแล้วแต่น้องพลอยยังอยู่ในใจพ่อแม่เสมอ

นางพัชรี กล่าวว่า วันนี้ตนรู้สึกเหนื่อยและเสียใจ ที่เหมือนจะต้องจากกันจริงๆ ทั้งที่หลายวันที่ผ่านมาการตามหา และติดตามดำเนินคดี ยังรู้สึกว่าน้องพลอยอยู่กับแม่ตลอดเวลา โดยในวันเผาศพน้องพลอย ตนได้สวมรองเท้าคัทชูของน้องพลอยด้วย ซึ่งเป็นรองเท้าที่ลูกซื้อมาใส่เบอร์เดียวกับแม่พอดี ทำให้รู้สึกว่ามีน้องพลอยอยู่กับแม่ และก่อนหน้านี้ทางญาติๆของนายพลกฤต ก็พยายามติดต่อมาร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพ และจะมาร่วมในวันเผาซึ่งตนและพ่อของน้องพลอย ก็ห้ามไม่ให้มาร่วมงาน เนื่องจากญาติๆยังทำใจไม่ได้กับการกระทำของนายพลกฤต หากมาร่วมงานอาจไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามในส่วนเรื่องที่ตำรวจจะมีหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับนายพลกฤตอย่างไรยังไม่อยากจะพูด โดยเฉพาะคนเป็นพ่อแม่ จะบอกว่าไม่รู้อะไรตนไม่เชื่อ เพราะสัญชาติญาณคนเป็นพ่อแม่ไม่ว่าลูกผิดหรือถูกต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว หลังเสร็จจากงานฌาปนกิจศพน้องพลอย ตนพร้อมด้วยทนายความ จะเดินหน้าตามความคืบหน้าของการดำเนินการกับคนผิดที่เกี่ยวข้องต่อไป...

ตะลึงทั้งงาน น้องพลอยสิงร่างทรง ออกปากเตือนแม่ หยุดให้ข่าว-ระวังอันตราย...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทุกคนอยู่ระหว่างการรอคอยร่วมฌาปนกิจศพน้องพลอยปรากฏว่ามีผู้หญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 45-50 ปีซึ่งเป็นคนละคนกับคนที่เคยบอกว่าน้องพลอยเข้าสิง ได้เดินแหวกผู้คนเข้ามาจนถึงตัวของนางพัชรี แม่ของน้องพลอยที่กำลังยืนต้อนรับแขกที่มาร่วมงาน โดยบอกกับนางพัชรีว่าตนเป็นร่างทรงและได้สื่อสารกับน้องพลอยได้ โดยน้องพลอยให้มาบอกกับนางพัชรีผู้เป็นแม่ว่า ให้หยุดให้ข่าวกับสื่อมวลชนได้แล้ว ไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตราย นางพัชรี ถึงกับอึ้ง และเรียกให้ญาติๆมาคุยกับผู้หญิงคนดังกล่าว แต่ไม่ทัน ผู้หญิงคนดังข่าวได้วิ่งหายออกไปจากวัดทันที ขณะที่นางพัชรี บอกว่าไม่เชื่อและคิดว่าเป็นการมาเตือนให้ตนเองหยุดให้ข่าวมากกว่า ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใคร และตนเองจะไม่หยุดอะไรทั้งนั้นและจะไม่มีการอโหสิกรรมให้นายพลกฤตและคนที่เกี่ยวข้องทุกคน

ด้านพล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเดินทางมาร่วมงาน กล่าวว่า

ทางตำรวจได้นำตู้แดงไปติดที่หน้าบ้านของนางพัชรี และเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจเพื่อให้นางพัชรีและครอบครัวอุ่นใจขึ้น ล่าสุดแม่น้องพลอยได้มาให้ปากคำเพิ่มกับตำรวจ สภ.ท่าเรือ โดยมีพยานยืนยันว่าเห็นคนร่วมด้วยอีก 2 คน เจ้าหน้าที่วิทยาการทำการสเก็ตภาพของผู้สงสัย จากนั้นจะให้พยานดูว่ามีลักษณะคล้ายบุคคลที่เห็นหรือไม่ หากมีตัวตน และยืนยันตามพยานก็จะออกหมายจับข้อหาร่วมก่อเหตุลักพาตัว แต่ถ้าเป็นช่วงเกี่ยวข้องกับการสังหารก็จะร่วมกันฆ่าต่อไป...