รองสารวัตรสอบสวน สภ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงความคืบหน้าในการสอบสวนดำเนินคดี ต่อคนขับรถกระบะพุ่งชนอาสาสมัครกู้ภัย และพลเมืองดี ที่กำลังให้การช่วยเหลือคนเจ็บอยู่กลางถนน จากอุบัติเหตุซ้ำซ้อนต่อเนื่องกันหลายราย ในขณะที่ทางนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ ซิตี้ กำลังทำการก่อสร้างซ่อมแซมลาดยางพื้นผิวจราจรภายในนิคมฯ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3 รายว่า ในวันเกิดเหตุได้ทำการสอบสวน นายภูเบศร อายุ 33 ปี คนขับรถกระบะ มาสอบสวนในฐานะพยานเอาไว้แล้ว และได้นำตัวพาไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ซึ่งพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ คือ 63 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้ต้องหาได้ยอมรับสารภาพว่าได้ดื่มเบียร์มา จึงจะได้เรียกมาทำการแจ้งข้อกล่าวหาว่า ขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถโดยประมาทจนทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย และ เมาแล้วขับ แต่ทราบว่าผู้ต้องหากำลังอยู่ระหว่างการบวชหน้าไฟ ให้แก่ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย จึงยังจะไม่ได้เรียกมาทำการแจ้งข้อกล่าวหา แต่อาจจะเรียกมาแจ้งข้อหาในเร็ว ๆ นี้
ด้านนิคมอุตสาหกรรมนั้น ได้ทำการเรียกให้ทาง บริษัทเจ้าของและผู้ดูแลนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ มาสอบสวนในฐานะพยานและยังอยู่ระหว่างขั้นตอนในการออกหมายเรียก ผู้ควบคุมการก่อสร้างซ่อมแซมเส้นทางให้มารับทราบข้อกล่าวหา กระทำการโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยขณะนี้กำลังเตรียมออกหมายเรียกไปยังทางเจ้าของคลิปจากกล้องหน้ารถ ที่ขับผ่านมาในขณะเกิดอุบัติเหตุพอดี และมีการนำออกมาโพสต์เผยแพร่ผ่านทางโซเชียล ให้มาให้ปากคำในการสอบสวนไว้เป็นพยานด้วย แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้