จากกรณีที่ น.ส.จุฑารัตน์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ข้าราชการตำแหน่ง ผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. เป็นเวลานานกว่า 1 เดือนเศษ ซึ่งเมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้เข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู จ.ศรีสะเกษ และเข้าร้องทุกข์กับสื่อมวลชน เพื่อขอให้ช่วยติดตามหาลูกสาวที่หายไป ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ของ น.ส.จุฑาภรณ์ ถูกนำเอาไปขายและมีการนำเอาไปทำสีอยู่ที่อู่รถแห่งหนึ่งในเขต จ. อุบลราชธานี ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันที่ 9 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากพบรถเก๋งของ น.ส.จุฑารัตน์ จอดอยู่ในอู่ซ่อมรถดังกล่าว ที่ จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.อุบลราชธานี เข้าตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานภายในรถคันดังกล่าว เพื่อใช้เป็นหลักฐานนำไปสู่การติดตามหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์
เบื้องต้นรถคันดังกล่าว ช่างได้ทำการลอกสีออกไปบางส่วน เพื่อจะทำสีใหม่ตามที่ได้รับการว่าจ้างจาก "เสี่ย ต." ซึ่งได้ซื้อรถคันนี้มาจากผู้ขายที่ติดต่อขายให้ "เสี่ย ต." ผ่านทางเฟซบุ๊ก ในราคา 2 แสนบาทเศษ
นายบุญชู ศิรินนท์ อายุ 48 ปี เจ้าของอู่ เปิดเผยว่า ได้รับจ้างทำสีรถให้กับ "เสี่ย ต." ที่มีอาชีพซื้อรถแบบซื้อมาขายไป ไม่ได้มีการจอดขายแบบเต๊นท์รถ โดยรถคันนี้เมื่อ "เสี่ย ต." ซื้อมาพบว่าเนื้อสีเดิมของรถมีการโป้สีมาหนา ทำให้ดูเหมือนมีการชนอย่างหนักมาแล้ว หากนำไปขายในสภาพเดิมจะไม่ได้ราคา จึงได้นำรถที่อยู่ในสภาพปกติ ไม่มีร่องรอยการชนใดๆ มาให้ตนขัดและลงสีให้บางลง โดยเป็นสีเดิมที่ระบุมากับคู่มือรถในราคา 15,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา และเมื่อสัปดาห์ก่อน ตนเพิ่งว่างจากการทำสีรถคันอื่น จึงนำรถมาลอกสีเพื่อลงสีใหม่ และเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบกับตน พร้อมขอเก็บหลักฐานภายในตัวรถ
"หลังจากนั้นชุดสืบสวนได้เรียก "เสี่ย ต." ให้นำหลักฐานการซื้อขายรถมาแสดง พร้อมสอบปากคำผมและ "เสี่ย ต." ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนสั่งอายัดรถคันดังกล่าวเอาไว้จนกว่าเรื่องการหายตัวของ น.ส.จุฑาภรณ์ จะคลี่คลาย ซึ่งตนก็ได้จอดรถคันดังกล่าวไว้ในอู่มาจนถึงวันนี้" นายบุญชู กล่าว
CR::::khaosod.co.th