หนุ่มใหญ่ใช้ท่อนฟืน ฟาดปลายคางอดีตภรรยา เเละกระหน่ำตีซ้ำจนดับสวนกาเเฟ ก่อนรอมอบตัวกับ ตร. อ้าง ฝ่ายหญิงไม่พอใจที่อดีตสามีไม่ยอมคืนดี คว้ามีดดายหญ้าหมายจะทำร้าย หนุ่มใหญ่จึงคว้าท่อนไม้ฟาดจนเสียชีวิต
วันที่ 29 ก.ค. 60 พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว ผกก.สภ.งาว จ.ลำปาง เปิดเผยว่าเมื่อช่วงเย็นวานนี้ที่ผ่านมา (28 ก.ค.) ร.ต.อ.ศุภชัย กันทะวงค์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.งาว ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายบริเวณกระท่อมไม่มีเลขที่ บ้านปากบอก หมู่ที่ 6 ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง แพทย์ รพ.งาว และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยงาว รุดไปตรวจสอบ
เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นางพรนภา ขวัญธนชุลี อายุ 41 ปี ชาวบ้านหมู่ 12 ต.บ้านร้อง อ.งาว สภาพศพมีบาดแผลที่ศีรษะมีเลือดไหลจำนวนมาก นอนเสียชีวิตอยู่ข้างกระท่อมดังกล่าว ส่วนผู้ก่อเหตุทราบคือ นายวัธนพงศ์ กำธรเจริญนิติกุล อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 12 ต.ร่องเคาะ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ซึ่งหลังก่อเหตุก็ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบสวน นายวัธนพงศ์ได้รับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้ท่อนไม้ฟืนตีผู้ตายซึ่งเป็นอดีตภรรยาจนเสียชีวิตจริง โดยก่อนหน้านี้ตนและผู้ตายได้หย่าร้างกันได้ประมาณ 1 เดือน ซึ่งช่วงเช้าตนเองได้พาคนงานมาตัดหญ้าภายในสวนกาแฟซึ่งอยู่ใกล้กับกระท่อมดังกล่าว และในช่วงเที่ยงได้กลับไปกินข้าวที่กระท่อมแล้วได้ขับรถจักรยานยนต์ออกไปซื้อน้ำแข็ง ซึ่งระหว่างทางก็ได้ขับรถสวนกับผู้ตาย แต่ก็ไม่ได้พูดคุยกัน
เมื่อกลับมาที่กระท่อมก็พบกับผู้ตาย ซึ่งผู้ตายได้มาขอคืนดีและบอกว่าจะมาช่วยถางหญ้าที่สวนกาแฟ ตนจึงได้ตอบปฏิเสธและบอกว่าสวนกาแฟเป็นของตน ผู้ตายไม่ต้องมายุ่งเกี่ยว เพราะเลิกรากันไปแล้ว อีกทั้งยังได้จ่ายเงิน 100,000 บาท และให้ข้าวเปลือกอีก 15 กระสอบเป็นค่าหย่าร้างกันไปแล้ว
ทำให้ผู้ตายไม่พอใจจึงเกิดการโต้เถียงกัน ซึ่งในขณะที่ตนกำลังเดินไปล้างมือข้างกระท่อมพบว่าผู้ตายได้เดินถือมีดถางหญ้าเข้ามาหา และทำท่าจะฟันตนเอง ตนจึงได้หยิบเอาท่อนไม้ฟืนที่วางอยู่ใกล้ๆ ตีเข้าไปที่คางของผู้ตายจนล้มหงายหลัง และได้ตีซ้ำอีก 2 ครั้ง ที่บริเวณศีรษะจนผู้ตายเสียชีวิตดังกล่าว
อย่างไรก็ตามทราบว่า หลังเกิดเหตุนายวัธนพงศ์ก็ไม่ได้คิดจะหลบหนี เพราะได้เล่าเรื่องดังกล่าวให้บิดาฟัง ซึ่งบิดาบอกว่า "ไม่ต้องหนีลูกผู้ชายทำผิดก็ต้องยอมรับผิด" จึงได้เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตู้ยามผาแดงเพื่อมอบตัว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานผู้บังคับบัญชาพร้อมควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ เเละจะแจ้งข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" แล้วนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป