จากกรณีน.ส.ลัดดา จินดาแก้ว อายุ 33 ปี ถูกฆ่าเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำของโรงเรียนบ้านหนองคล้า หมู่ 7 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ขณะพาลูกชายวัย 7 ขวบมาเตะฟุตบอลที่โรงเรียนดังกล่าว หลังลูกชายเตะฟุตบอลเสร็จ ก็ได้มาหาแม่แต่ไม่พบ จึงไปตามชาวบ้านมาช่วยกันค้นหา กระทั่งพบว่าเสียชีวิตในสภาพดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิดและตรวจสอบหลักฐานพบว่า ผู้ต้องสงสัยในคดีนี้คือ นายวินิจ อัครสุวรรณกุล อายุ 53 ปี ผอ.โรงเรียนบ้านหนองคล้า ก่อนนายวินิจจะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ แต่ยังให้การปฏิเสธ ซึ่งจากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผอ.รายดังกล่าวมีความใกล้ชิดกับผู้ตาย
ส่วนการตรวจเช็กกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้องน้ำที่พบศพ พบว่าผู้ตายมาที่ห้องน้ำ จากนั้นไม่นานผอ.โรงเรียนได้ขับรถปิกอัพเข้ามาจอดและเดินเข้าไปคุยกันบริเวณห้องน้ำเป็นเวลา 18 นาที จากนั้นผอ.ได้ขับรถออกไป ขณะที่ความสัมพันธ์ของผู้ตายและผอ.โรงเรียน พบสนิทสนมกัน ส่วนชนวนเหตุที่อาจนำไปสู่การก่อเหตุ เนื่องจากผู้ตายได้ข่มขู่ เพื่อเปิดเผยเรื่องราวความลับบางอย่าง ที่อาจก่อให้เป็นชนวนที่ทำให้เกิดเหตุครั้งนี้
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองใบ ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า คดีนี้ยังไม่ออกหมายจับ เนื่องจากผู้ต้องสงสัยมามอบตัวก่อน พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ และจะสอบสวนเพิ่มเติม โดยพยานหลักฐานในเบื้องต้นก็อยู่ในสำนวน แต่ไม่ขอเปิดเผย เพราะอาจเสียรูปคดี ซึ่งใครผิดใครถูกขึ้นอยู่กับศาลจะพิจารณา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัว และอยู่ที่ศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่
ส่วนบรรยากาศที่โรงเรียนบ้านหนองคล้า ยังเปิดให้มีการเรียนการสอนปกติ ขณะที่ครู-นักเรียนที่ทราบข่าวก็ต้องตกตะลึง เมื่อผอ.โรงเรียนต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีสยองขวัญ โดยส่วนใหญ่รู้สึกตกใจมาก
ด้านนางคะนึงนิต หนูนุ่ม ครูชำนาญการ เผยว่า สอนอยู่โรงเรียนนี้มาถึง 36 ปีและกำลังจะเกษียณในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะผอ.เป็นคนดี ทำงานเก่งและเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาการเรียนการสอน จึงคาดไม่ถึงว่าจะเป็นฆาตกรฆ่าคนได้ ส่วนผู้ตายก็เคยเห็นเข้ามาเดินเล่นอยู่ในโรงเรียนบ่อยครั้ง และไม่คิดว่าจะมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับผอ.มาก่อน ตอนนี้ครูทุกคนในโรงเรียนไม่มีจิตใจจะสอนหนังสือ เพราะช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพยายามจะไม่บอกให้นักเรียนทราบ เพราะเกรงเด็กและผู้ปกครองจะรับไม่ได้
นอกจากนี้ชุดสืบสวนยังเร่งรวบรวมหลักฐานที่เชื่อมโยงระหว่างคนตายกับผอ.โรงเรียน ถึงแม้ผอ.โรงเรียนจะให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องการเหตุฆาตกรรมโหดในห้องน้ำโรงเรียน แต่เจ้าหน้าที่เตรียมรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ด้วยการตรวจสอบหาดีเอ็นเอของผอ.โรงเรียนจากเสื้อผ้าของคนตายว่ามีติดอยู่หรือไม่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เชื่อว่าหากผอ.โรงเรียนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ อาจมีการต่อสู้กันบริเวณห้องน้ำ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นต้องมีดีเอ็นเอของผอ.โรงเรียนติดอยู่ที่เสื้อผ้าของคนตาย โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบอย่างเร่งด่วน