ความคืบหน้าคดีฆ่ายกครัว 8 ศพ เหยื่อผู้รอดชีวิตออกจากโรงพยาบาลแล้ว รู้สึกหวาดผวาเมื่อเห็นคนแปลกหน้า เจอคนใส่ชุดทหาร-ชุดตำรวจแล้วร้องไห้ ขณะที่ญาติเข้าเยี่ยม "บังฟัต" ขังแยกคนเดียว หวั่นถูกทำร้าย
จากกรณีคนร้ายยิง นายวรยุทธ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมด้วยครอบครัว และญาติภรรยา รวม 8 ศพ บาดเจ็บ 3 ราย ต่อมาเจ้าหน้าที่จับกุมตัว นายซูริก์ฟัต อายุ 41 ปี นายทุนเงินกู้และปล่อยดอกเบี้ย พร้อมพวกรวม 8 คน เนื่องจากปัญหาการจำนองที่ดิน ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกนำเข้าเรือนจำกระบี่ ฝากขังเป็นผัดแรก
ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ (26 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนึ่งในผู้บาดเจ็บที่เป็นพยานปากสำคัญของคดีดังกล่าว คือ นางสาวอัญชลี และลูกสาว 2 คน ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวมาได้ ล่าสุดอาการปลอดภัย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
ทำให้บรรยากาศที่บ้านพักมีญาติให้การต้อนรับและดูแลอย่างใกล้ชิด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวลึก มาประจำคอยดูแลความปลอดภัย หมุนเวียนเวรละ 2 นาย และทางอำเภออ่าวลึกจัดชุด ชรบ.หมู่บ้าน คอยดูแลร่วมกับตำรวจตลอด 24 ชั่วโมง
นางสาวอัญชลี กล่าวว่า ตนกลับมาอยู่ที่บ้านพ่อแม่ก่อน เพราะรู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดเหตุขึ้น ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ เพราะสูญเสียสามีและขาดเสาหลักครอบครัวไปแล้ว ส่วนอาการของลูกๆ นั้น ลูกคนเล็กเมื่อนึกขึ้นได้ก็จะพูดถึงเหตุการณ์ ถามถึงและมีอาการหวาดกลัวเมื่อพบเห็นทหารหรือตำรวจแต่งเครื่องแบบ รวมทั้งคนแปลกหน้า
ส่วนการดูแลของเจ้าหน้าที่นั้น ในช่วงแรกอยู่โรงพยาบาลก็จะมีนักจิตวิทยามาคอยพูดคุย ฟื้นฟูสภาพจิตใจ แต่เมื่อกลับมาอยู่บ้านก็ยอมรับว่าความรู้สึกไม่ค่อยดี ต้องเริ่มต้นใหม่บ่อยๆ ทำให้เกิดความคิดมาก แต่ไม่อยากจะร้องไห้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกแล้ว จะพยายามทำใจให้ดีขึ้น
นางสาวอัญชลี ยังกล่าวอีกว่า ลูกทั้ง 2 คนยังมีบาดแผลที่ต้องรักษาต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกสาวคนโต ได้นำเอากระสุนออกและเย็บแผล 26 เข็ม แต่กะโหลกยังไม่เข้าที่ บาดแผลใกล้เส้นเลือดใหญ่ และมีอาการชัก ซึ่งแพทย์บอกว่าต้องใช้เวลาในการรักษา แม้บาดแผลจะหายแล้ว แต่อาการชักอาจจะเป็นได้ตลอดชีวิต ทั้งนี้อนาคตยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะทำอย่างไรต่อ คงเฝ้ารอดูแลให้ลูกหายดีก่อน
ขณะที่กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกส่งเข้าเรือนจำนั้น นายสมศักดิ์ เตียงตระกูลทอง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า หลังผ่านมา 4-5 วัน กลุ่มผู้ต้องหาเริ่มปรับตัวได้ดี มีการพูดคุยได้ดีขึ้น และเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ "บังฟัต" เป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ต้องฝากขังแยกไว้คนเดียวในห้องซอยเพื่อความปลอดภัย ส่วนที่เหลือขังแยกในห้องซอยห้องละ 3 คน
เมื่อถึงเวลาอาบน้ำกินข้าวนั้น ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด วันนี้ทางแพทย์และจิตแพทย์จากโรงพยาบาลกระบี่ จะมาตรวจผู้ต้องหาทุกรายอีกรอบหนึ่ง และเมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) ได้มีญาติของบังฟัตและผู้ต้องหาอีก 2 คน เดินทางมาเยี่ยมแล้ว ทั้งนี้ที่มีการหวั่นว่าจะมีการทำร้ายในเรือนจำนั้น ทางเรือนจำกระบี่ได้วางมาตรการไว้เป็นอย่างดี ป้องกันเหตุไม่คาดฝันไว้แล้ว