ผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่ ม.1 บ้านเขางาม ต.บ้านกลาง เพื่อตรวจสอบผู้ที่ถูกบังฟัต โกงที่ดิน โดยเดินทางไปที่บ้านของนายแดง มีสภาพร่างกายพิการขา เดินไม่สะดวก ไม่มีอาชีพแน่นอน หลังรับทราบว่าเป็น 1 ในจำนวนเหยื่อที่ถูกบังฟัต โกงที่ดิน ภรรยาของนายแดง เล่าว่า เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2555 ลูกเขยเดือดร้อนเรื่องเงิน จึงได้นำที่ดินเนื้อที่ประมาณ 3 งานเศษ ไปจำนองกับบังฟัต เป็นเงินจำนวน 420,000 บาท โดยช่วยกันผ่อนกับลูกอีกคน เดือนละ 4,000 บาท
ต่อมาได้ตกลงทำสัญญาใหม่กับบังฟัต เป็นเงินจำนวน 800,000 บาท โดยสัญญากันว่า หากเดือนไหนไม่มีเงินส่งผ่อน เงินจำนวนดังกล่าวก็จะไม่เพิ่มอีก ซึ่งก็ตกลงผ่อนเดือนละ 4,000 บาท เหมือนเดิม
กระทั่งเมื่อประมาณปีที่แล้ว ทางธนาคารแห่งหนึ่งมาถ่ายรูปบ้าน และบอกว่าขาดผ่อนหลายเดือน จึงรู้ว่าถูกบังฟัตหลอก นำโฉนดที่ดินดังกล่าว ไปจำนองต่อกับธนาคาร เมื่อรู้อย่างนั้นลูกเขยจึงหยุดส่งค่างวดให้กับบังฟัตทันที พยายามติดต่อบังฟัตแต่ก็ติดต่อไม่ได้
ตอนนี้จึงต้องอยู่อย่างหวาดผวา เพราะไม่ทราบว่าธนาคารจะมายึดบ้านพร้อมที่ดินไปเมื่อไหร่ ซึ่งที่ดินแปลงนี้เป็นแปลงสุดท้ายของสามีที่ได้รับมรดกตกทอดมา และแบ่งให้ลูกๆอาศัย สร้างบ้านอยู่รวมกัน 5 ครอบครัว รวมกว่า 20 ชีวิต หลังจากนี้ก็คงจะเดินทางไปร้องขอให้หน่วยงานของรัฐช่วยเหลือต่อไป
ด้านนายแดง เล่าว่า บังฟัต เป็นหลานแท้ๆ เนื่องจากแม่บังฟัต เป็นพี่สาวของตนเอง ด้วยความเชื่อใจที่บังฟัตเป็นหลาน จึงได้ให้โฉนดที่ดินแก่ลูกเขยไปจำนองไว้กับบังฟัต ไม่คิดว่าจะถูกโกง เพราะเห็นหลานคนนี้มาตั้งแต่ยังเล็ก เป็นเด็กเรียบร้อย พูดจาดี ไม่คิดว่าจะทำกันแบบนี้