จากกรณี นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เร่งรัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองการต่างประเทศ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.)เปิดเผยว่า ในส่วนของเอกสารทางกองการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้ จะเป็นอะไรที่สะดวก หากไม่พร้อมหรือไม่สะดวก ตนจะลงไปขับเคลื่อนเร่งรัดด้วยตนเอง หรือตำรวจท้องที่ไปหาคนแปล การแปลเอกสารต้องได้รับการรับรอง จะพยายามทำให้เร็วที่สุด ต้องขออภัยด้วยที่ล่าช้าเพราะเป็นเรื่องของเอกสารแปลไม่แปล แต่จะพยายามเร่งรัดให้ได้ผล หรือบางทีทางกองการต่างประเทศอาจไม่พร้อม คงจะต้องคุย ถือว่าเราเป็นหน่วยงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยกัน ไม่อยากให้คนมองว่าเพราะเป็นคดีนี้หรือเปล่าจึงล่าช้า โยกโย้ไปมา ขอยืนยันว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นเช่นนั้น คิดว่าเป็นงานลูกทีมแล้วผู้เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการ หากล่าช้าจะลงไปกำชับด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางตำรวจเพิ่งส่งเอกสารให้บริษัทเอกชนแปลเมื่อวันที่ 17กรกฎาคมที่ผ่านมา จำนวน 33 หน้า จะใช้เวลาดำเนินการเท่าใด พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า จะประสานบริษัทเอกชนให้เป็นของขวัญให้ทุกคน เรื่องจะได้จบ แค่เพียงเรื่องเอกสารนิดหน่อยก็ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ ยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นบางอย่างอาจจะมีปัญหาไปบ้าง ยืนยันว่าจะลงไปขับเคลื่อนด้วยตนเองส่วนจะถามไปยังกองการต่างประเทศไม่สะดวกแปล หรือเจ้าหน้าที่ไม่พอ ถึงดำเนินการให้เร็วได้หรือไม่นั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องคุยกันแบบพี่แบบน้อง เชื่อว่าท่านพยายามจะช่วยเหลือเรา ตนว่าจะไม่ก้าวก่ายเพราะถือว่าเป็นข้าราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยกัน บางทีอาจไม่มีความพร้อมในเรื่องผู้แปล เชื่อว่าถ้ามีความพร้อมท่านคงแปลให้ ทางท้องที่ต้องหาคนที่มีความพร้อมมาแปล ในบ่ายวันนี้จะประชุมคอนเฟอร์เรนซ์ ให้เสร็จภายใน 1-2 วัน จะได้ทำเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้น และจะดำเนินตามกระบวนการสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากไม่ได้ก็เป็นเรื่องของประเทศที่ผู้ต้องหาไปพำนักอยู่ ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ เป็นเรื่องผิดพลาดทางเทคนิค
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเอกสารแปลเสร็จสิ้นแล้วจะดำเนินการอย่างไรต่อ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า จะดำเนินการไปยังกระทรวงต่างประเทศ แล้วส่งไปยังประเทศที่ผู้ต้องหามีถิ่นพำนักอยู่ตามสนธิสัญญา ทางอัยการของประเทศนั้นจะพิจารณาสมควรทำเรื่องเสนอศาลประเทศนั้นว่าเข้าเงื่อนไขหรือไม่ แล้วประเทศที่ผู้ต้องหาไปพำนักนั้นต้องมีข้อตกลงร่วมกับเราด้วย ส่วนทราบตัวว่าผู้ต้องหาอยู่ที่ไหนหรือไม่นั้น จากการติดตามไม่ได้อยู่ในประเทศ หรืออาจจะเป็นทางยุโรป ตนจะพยายามทุกวิถีทางที่จะได้ตัวผู้ต้องหามา เชื่อว่าคดีนี้ไม่ได้ใหญ่โตเพียงแค่ประมาท หากได้รับการเยียวยาชดเชยศาลท่านคงปราณี จะได้เป็นบรรทัดฐานว่ากฎหมายมีใช้สำหรับทุกคนเสมอภาคกัน