สาวลำปางถูกกระสุนปริศนาเข้าหน้าผากดับ ตร.ยังคลำหาปมสังหารไม่เจอ

สาวลำปางถูกกระสุนปริศนาเข้าหน้าผากดับ ตร.ยังคลำหาปมสังหารไม่เจอ


กระสุนปริศนาเจาะหน้าผากสาววัย 27 ปี ชาวลำปาง เพื่อนชายที่มาด้วยกัน เผย ขณะที่จอดรถเพื่อฉี่ข้างทางได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดและเห็นกลุ่มวัยรุ่นขี่ จยย.หนีไป ด้านตำรวจยังคลำหาปมสังหารไม่เจอ โดยจะมีการตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง

เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 16 ก.ค.60 พ.ต.ต.กฤตเมธ ทาคำ สว.(สอบสวน) สภ.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง รับแจ้งจากโรงพยาบาลแม่ทะว่ามีคนถูกยิงมารักษาตัวและได้เสียชีวิตลง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.สงวน แสงคำ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท. เกรียงไกร ศรีธัญรัตน์ รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ต.โสกิจ วรวงค์ สวป.ชุดสืบสวน ร่วมกันสอบสวนเหตุ

ที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแม่ทะพบศพ น.ส.กรรณิการ์ สงฆ์วัฒนะ อายุ 27 ปี ชาวบ้าน ตำบลแม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง สภาพศพใส่เสื้อยืดลายขวาง สีดำ-เทา สวมกางเกงขาสั้นสีเขียว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณหน้าผาก 1 นัด กระสุนฝังใน สอบถาม จนท.โรงพยาบาลทราบว่า ช่วงเวลาประมาณ 22.20 น.มีผู้ชายวัยกลางคน จำนวน 3 คนขับรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้สีฟ้า ไม่ทราบเลขทะเบียน นำผู้ตายมาส่งที่โรงพยาบาลพร้อมให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าถูกยิงที่บริเวณสะพานบ้านหัวเสือ

หลังจากนั้นก็ได้ขับรถออกไปเพื่อจะไปแจ้งญาติโดยทิ้งเบอร์ไว้ให้ จนท.ติดต่อ ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณสะพานหัวเสือ ดอนมูลพัฒนา หมู่ที่ 2 ตำบลหัวเสือ อ.แม่ทะ จากการตรวจสอบพบรองเท้าแตะสีดำ เหลือง ตกอยู่บนถนน1 ข้าง แต่ไม่พบหยดเลือด หรือปลอกกระสุนปืน เมื่อสอบถามคนในระแหวกดังกล่าวก็ไม่มีใครทราบว่ามีการยิงกัน จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาได้มี ชายจำนวน 2 คน คือนายบุญมา และนายไพโรจน์ อายุระหว่าง 30-40 ปี ทั้งคู่เป็นชาวจังหวัดลำปาง ได้เดินทางมาพร้อมกับทนายความ มายังที่โรงพยาบาลแม่ทะ พร้อมเล่าว่าขณะที่ตนทั้ง 3 คนรวมผู้ตายกำลังจะเดินทางไปเที่ยวบ้านเพื่อนซึ่งอยู่ในระแหวกดังกล่าว เมื่อถึงที่เกิดเหตุทั้งคู่เกิดปวดฉี่ จึงจอดรถและลงไปปัสสาวะใกล้กับบริเวณสะพานดังกล่าว โดย น.ส.กรรณิการ์นั่งอยู่บนรถเก๋งคันดังกล่าว ในที่นั่งข้างคนขับ ขณะที่ยืนฉี่อยู่นั้นก็ได้ยินเสียงคล้ายประทัดดังขึ้น 1 ครั้ง เมื่อหันไปดูก็เห็นกลุ่มวัยรุ่นขี่ จยย.ไม่ทราบรุ่น สี ยี่ห้อ ทะเบียน เนื่องจากเป็นที่มืด ขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว และพบว่าน.ส.กรรณิการ์ ถูกยิง จึงนำส่งโรงพยาบาลดังกล่าว หลังเกิดเหตุตนตกใจทำอะไรไม่ถูกจึงขับรถออกมาจากโรงพยาบาลโดยได้ให้เบอร์โทร จนท.ติดไว้เพื่อติดต่อ พร้อมทั้งออกมาโทรศัพท์แจ้งญาติผู้ตาย และได้เดินทางมาพร้อมทนายดังกล่าว

เบื้องต้นตำรวจได้นำชายทั้งคู่ไปสอบสวนและลงตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์