หนุ่มควบปิกอัพ พุ่งอัดต้นไม้ ตัวเองตาย เมียท้อง3เดือนแท้ง-ลูกอีกคนเจ็บ

หนุ่มควบปิกอัพ พุ่งอัดต้นไม้ ตัวเองตาย เมียท้อง3เดือนแท้ง-ลูกอีกคนเจ็บ

หนุ่มควบกระบะพาครอบครัวมุ่งหน้าเข้าเมืองพิษณุโลก ระหว่างทางเสียหลักพุ่งอัดต้นไม้ ร่องกลางถนน ตัวเองเจ็บสาหัสก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนเมียท้อง เสียลูกในครรภ์-ลูก 7 ขวบที่นั่งมาด้วย สาหัส คาดหลับใน ...

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 14 ก.ค. ร.ต.อ.วันชัย เป้รอด รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางระกำ จ.พิษณุโลก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนต้นไม้ในร่องเกาะกลางถนน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณถนนสายพิษณุโลก - นครสวรรค์ กม.ที่ 105 ฝั่งขาเข้าตัวเมืองพิษณุโลก หมู่ 2 บ้านบ่อทอง ต.บ่อทอง อ.บางระกำ จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน

ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน ฆษ 1676 กรุงเทพมหานคร ชนอัดก๊อบปี้อยู่กับต้นไม้ขนาดใหญ่ ในร่องเกาะกลางถนน มีผู้บาดเจ็บร้องขอความช่วยเหลือจำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือนำออกจากรถนำส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร 2 ราย ทราบชื่อต่อมา น.ส.นัดดา จันทอง อายุ 32 ปี ชาว อ.เมือง จ.ชลบุรี มีบาดแผลตามใบหน้าฟกช้ำตามร่างกาย และมีเลือดไหลออกทางช่องคลอด เนื่องจากท้องได้ 3 เดือน แพทย์ไม่สามารถช่วยเหลือบุตรในครรภ์ได้ ล่าสุด น.ส.นัดดา อาการปลอดภัยแล้ว อีกราย คือ ด.ช.ธนพนธ์ พละโคตร อายุ 7 ปี บุตรของ น.ส.นัดดา มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ อาการยังน่าเป็นห่วง แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียู


หนุ่มควบปิกอัพ พุ่งอัดต้นไม้ ตัวเองตาย เมียท้อง3เดือนแท้ง-ลูกอีกคนเจ็บ

ส่วนผู้บาดเจ็บอีกราย เป็นชายอาการสาหัสนอนหมดสติอยู่ภายในรถ เลือดไหลอาบท่วมตัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนวิทยุขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร มารับตัวไปส่งให้แพทย์ทำการรักษา แต่แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ สิ้นใจในเวลาต่อมา ทราบชื่อ นายประสิทธิ์ พละโคตร อายุ 32 ปี สามีของ น.ส.นัดดา 


สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายประสิทธิ์ พร้อมครอบครัวกำลังขับรถมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองพิษณุโลก ระหว่างทางซึ่งเป็นทางตรงระยะยาว คาดว่านายประสิทธิ์น่าจะเกิดอาการหลับใน ทำให้รถเกิดเสียหลักตกถนนชนกับต้นไม้ในร่องเกาะกลางถนน เป็นเหตุให้ตัวเองเสียชีวิต ส่วนภรรยาและบุตรชายได้รับบาดเจ็บดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์