หนุ่มแคนาเดียน ผู้ต้องหารายสำคัญคดียาเสพติด ผูกคอตายในห้องขังของ บช.ปส ก่อนถูกส่งไปดำเนินคดีในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนที่ประเทศสหรัฐฯ เพียงไม่กี่ชั่วโมง เผยคนตายหนีคดีมาเป็นโปรแกรมเมอร์ในไทยนาน 7-8 ปี ก่อนถูกตำรวจหน่วยข่าวกรองยาเสพติด บช.ปส. จับกุมที่บ้านพักย่านฝั่งธนฯ พร้อมรถลัมโบร์กินี 38 ล้านบาท ขยายผลยึดเพิ่ม บ้าน 3 หลัง รถลัมโบร์กินี อีก 3 คัน รวมกว่า 400 ล้านบาท หลังเกิดเหตุตำรวจไทยแถลงเคลียร์ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯไม่ติดใจการตาย
หนุ่มแคนาเดียนผูกคอหนีคดียาเสพติดในห้องขัง บช.ปส. เปิดเผยเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 12 ก.ค. ร.ต.อ.สหรัตน์ หลวงสิริธนสิน รอง สว. (สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุผู้ต้องขังชาวต่างชาติใช้ผ้าเช็ดตัวผูกคอตายภายในห้องควบคุมของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.สำอาง ขาวสะอาด สว.สส.สน.ทุ่งสองห้อง กำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนประสานอัยการสหรัฐอเมริกา อัยการไทย เจ้าหน้าที่ บก.ข่าวกรองยาเสพติด บช.ปส. แพทย์นิติเวชฯ รพ.ตร.และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุภายในห้องควบคุมผู้ต้องหาของ บช.ปส. มีทั้งหมด 4 ห้อง แบ่งเป็นชาย 1 ห้อง หญิง 1 ห้อง ห้องควบคุมเด็ก 1 ห้อง ห้องผู้ร้ายข้ามแดน 1 ห้อง ขณะเกิดเหตุมีผู้ต้องขังรวมทั้งหมด 3 ราย เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ภายในห้องน้ำของห้องควบคุมผู้ร้ายข้ามแดน พบศพนายอเล็กซานเดอร์ คาแซส อายุ 26 ปี ชาวแคนาเดียน ผู้ต้องหาตามหมายจับของประเทศสหรัฐอเมริกา ในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงขาสั้นลายขวางสีดำ ใช้ผ้าขนหนูสีน้ำเงินผูกลำคอปลายผ้าอีกด้านผูกคล้องกับมุมกำแพงปูนส่วนกั้นห้องน้ำภายในห้องขัง นอนตะแคงซ้ายเสียชีวิตที่พื้นห้องน้ำ ตรวจสอบทั่วบริเวณไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หลังเก็บรวบรวมหลักฐานเสร็จ ส่งศพให้แพทย์นิติเวชฯ รพ.ตร.ชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง
ตรวจสอบเบื้องต้นพบนายอเล็กซานเดอร์ถูกตำรวจ บก.ข่าวกรองยาเสพติด บช.ปส.จับกุมตัวที่บ้านเลขที่ 514 หมู่บ้านไพรเวทเฮาส์ ถนนพุทธมณฑลสาย 3 ซอย 28 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. เมื่อวันที่ 5 ก.ค. เป็นการจับกุมตามหมายจับศาลอาญาที่ 502/2560 ลงวันที่ 30 มิ.ย.60 ผู้ตายตกอยู่ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนต้องถูกส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในวันที่ 12 ก.ค. แต่ผู้ตายกลับตัดสินใจผูกคอตายหนีคดีเสียก่อน นอกจากนี้ ชุดจับกุมยังตรวจยึดรถลัมโบร์กินี Aventador LP700-4 ปี 2011 สีเทา ทะเบียน 4 กถ 3620 กรุงเทพมหานคร มูลค่าประมาณ 38 ล้านบาท ของผู้ตายไว้ด้วย 1 คัน ขยายผลยึดทรัพย์สินประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 3 หลัง และรถลัมโบร์กินี อีก 3 คัน รวมมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท
พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. เปิดเผยว่า ผู้ต้องขังที่เสียชีวิตรายนี้เป็นชาวต่างชาติ ทำความผิดในประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย เอฟบีไอประสานข้อมูลมาจนสามารถติดตามจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 5 ก.ค. อยู่ระหว่างขั้นตอนการส่งกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 แต่ผู้ต้องหารายนี้กลับผูกคอตายวันเดียวกับกำหนดส่งผู้ร้ายข้ามแดน เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ ผบก.ประจำ บช.ปส. พล.ต.ต.ชยพจน์ หาสุณหะ ผบก.ขส.บช.ปส. พล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผบก.ปส.1 บช.ปส. ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่เกิดขึ้น พล.ต.ต.สุรศักดิ์ชี้แจงว่า จากการสอบปากคำพยาน เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลห้องควบคุมผู้ต้องขัง และผู้ต้องขังหญิงที่อยู่ห้องขังฝั่งตรงข้าม ยืนยันตรงกันในช่วงเวลา 07.00 น. ผู้ตายยังถามเวลากับผู้ควบคุมก่อนจะไปอาบน้ำเพื่อเตรียมไปพบอัยการตามขั้นตอนส่งผู้ร้ายข้ามแดน ผ้าเช็ดตัวที่ใช้ผูกคอเป็นของผู้ตายเอง ตรวจสอบตามร่างกายไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย เตรียมสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบให้เป็นไปตามระเบียบ
ขณะที่ พล.ต.ต.ชยพจน์กล่าวว่า กรณีนี้รับการประสานข้อมูลจากประเทศสหรัฐอเมริกาจนสามารถจับกุมผู้ตายที่เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญในประเทศสหรัฐอเมริกา หลบหนีเข้ามาทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ในประเทศไทยนานประมาณ 7-8 ปี และมีภรรยาเป็นชาวไทย เบื้องต้นผู้ตายสมัครใจกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เตรียมนำตัวไปส่งศาลในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน แต่กลับมาเกิดเหตุสลดเสียก่อน เจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกาไม่ติดใจการตายครั้งนี้ ส่วนเรื่องการยึดทรัพย์นั้นอยู่ระหว่างดำเนินการ