เตือนแก๊งคนร้าย แสร้งทำทีเป็นประสบอุบัติเหตุล้มรถกลางถนน ดักทำร้ายพยาบาลรพ.ตรัง ใช้หมวกกันน็อกฟาดท้ายทอย ชกท้อง แล้วใช้มีดคัตเตอร์กรีดแขนก่อนชิงสร้อยคอ 2 สลึงกับเงิน 7 พันบาท ตร.เร่งสเก็ตช์ภาพ เพื่อหาเบาะแสล่าตัวมาดำเนินคดี...
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 11 ก.ค.60 พ.ต.ต.จรูญ สังขารา สารวัตรเวร (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้สอบปากคำผู้เสียหายทราบชื่อ นางขวัญศิริ จงไกรจักร อายุ 28 ปี ชาวบ้าน ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง รับราชการตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ แผนกศัลกรรมอุบัติเหตุ รพ.ตรัง ยังอยู่ในอาการสลึมสลือ และตกใจกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตรัง ตรวจร่างกาย หลังจากถูกดักทำร้ายและปล้นทรัพย์หลบหนีไปเหตุเกิดบริเวณถนนสายสนามบินตรัง-กันตัง ม.8 บ้านไซหนุน ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง เหตุเกิดเมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 10 ก.ค.60 ที่ผ่านมา
จากการสอบปากคำ นางขวัญศิริ ผู้เสียหายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุหลังออกเวรขณะที่ตนกำลังกำลังขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสันมาร์ช สีขาว จาก รพ.ตรัง เพื่อกลับบ้านไปตามถนนบายพาสสายเลี่ยงเมือง เส้นทางสนามบินตรัง-กันตัง ระหว่างทางขับรถเลย รพ.สต.บ้านนาป้อ ต.ควนปริง มาได้ประมาณ 50 เมตร และใช้ความเร็วเพียง 60 กม./ชม. ปรากฎว่า มีชายวัยรุ่น จำนวน 3 ราย ขับขี่รถ จยย.สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อและป้ายทะเบียน มาปาดหน้ารถเก๋งของตนทำให้ตกใจ และเหยียบเบรคกะทันหัน โดยตอนนั้นคิดว่าได้เฉี่ยวชนชายวัยรุ่นทั้ง 3 รายเลยลงจากรถ และไม่คิดอะไรมาก ด้วยความเป็นพยาบาลจึงเข้าถามไปว่าเจ็บตรงไหนหรือไม่ ตั้งใจลงไปช่วย เเต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายรูปร่างลักษณะอ้วน ได้ลุกขึ้นมาล็อคคอตนก่อนใช้อาวุธปืนจี้บริเวณที่เอว แล้วบังคับให้ไปขึ้นรถยนต์
นางขวัญศิริ กล่าวอีกว่า จากนั้นชายคนที่ 2 ลักษณะผอมได้เดินมาทางประตูด้านคนนั่งข้าง ส่วนคนที่ 3 ยืนดูลาดเลาข้างนอก ซึ่งคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนเเละอาวุธมีดปลายแหลม พยายามข่มขู่และทำร้ายร่างกาย พร้อมกับรื้อค้นกระเป๋า ได้เงินสดไปจำนวน 7,000 บาทที่เพิ่งกดจากตู้เอทีเอ็มมาจากห้างโรบินสันตรัง เเละสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 1 เส้น โดยคนร้ายได้ข่มขู่ในรถว่าให้อยู่นิ่งๆ ไม่นั้นจะยิงให้ตาย จังหวะนั้น ผู้เสียหายรู้สึกกลัวมาก เลยพยายามสะบัดมือ เเละเปิดประตูรถยนต์วิ่งออกมาคนร้ายจึงดึงผมของตนเเล้วเอามีดคัตเตอร์กรีดเข้าที่เเขนซ้ายจำนวนหลายเเผล เเละยังชกต่อยเข้าที่หน้าท้องอย่างแรงอีก 2 ครั้ง
"ก่อนที่คนร้ายจะลงจากรถได้ใช้หมวกกันน็อก ฟาดเข้าที่ท้ายทอยอีก 2 ครั้ง เเละตบที่หน้าอีก 1 ครั้ง จนรู้สึกมึนงงมากและฟุบไปกับพวงมาลัยรถ เเต่ยังมีสติพยายามรีบโทรศัพท์บอกเเม่ สามีที่รับราชการทหารอยู่ที่ค่ายเทพกษัตรีท้าวศรีสุนทร อ.ทุ่งสง และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเหลือ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตนจึงขอฝากเตือนภัยทุกคนว่า อย่าลงจากรถยนต์เด็ดขาดขณะขับรถคนเดียวยามค่ำคืน หรือในที่เปลี่ยวเพราะเดี๋ยวนี้โจรมิจฉาชีพมันมีวิธีการมากมาย อาจทำแกล้งมาชนเรา หรือให้เราชนอย่างที่ตนเองประสบมาก่อนลงมือก่อเหตุ" พยาบาลสาว ผู้เสียหาย กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สส.) สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า ตอนนี้กำลังเร่งทำการสเก็ตซ์ภาพของคนร้ายทั้ง 3 รายจากคำบอกเล่าของผู้เสียหาย พร้อมทั้งส่งกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องลงพื้นที่หาเบาะแส ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆนี้ โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามกวดขันป้องกันอาชญากรรมอย่างเต็มที่ ซึ่งในตัวเมืองค่อนข้างจะได้ผล แต่ยังมีช่องว่างในรอบนอกรอยต่อระหว่างตำบล อำเภอ เนื่องจากบางจุดค่อนข้างเปลี่ยว ประกอบกับมาเจอกับสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ด้วย จึงขอให้ประชาชนช่วยกันดูแลชีวิตและทรัพย์สินของตัวเองด้วย.