จากกรณีคนร้ายฆ่าปาดคอ น.ส.ศรีประภา โคสินธิ์ อายุ 26 ปี อยู่ต.บึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พนักงานเสริ์ฟ ร้านอาหาร "แซ่บอีหลี " ในเขตเทศบาลปราณบุรี พบศพในห้องแถวเช่าชั้นเดียว ห้องที่ 5 เลขที่ 18/309 ในซอยประปา หมู่ 2 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี โดยสภาพศพบริเวณลำคอโดนของมีคมเชือดเป็นแผลฉกรรจ์ ท่อนล่างเปลือย ส่วนแขนทั้ง 2 ข้างถูกมัดติดกับขาด้วยเสื้อผ้าของผู้ตาย คาดว่าเสียชีวิตแล้ว 2 วัน ส่วนทรัพย์สินของผู้ตายสูญหายไปหลายรายการ โดยญาติแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราณบุรี ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา นั้น
ความคืบหน้า วันที่ 29 มิถุนายน พล.ต.ต.ประเสริฐ ศิริพรรณาภิรัตน์ รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ปราณบุรี และทีมสืบสวนจังหวัด เพื่อเร่งรัดออกหมายจับคนร้าย ล่าสุดมีการสรุปสาเหตุการตายจากเรื่องส่วนตัว และ ขณะนี้ผลการสอบสวนคืบหน้าไปมากกว่า 80% จากพยานแวดล้อมและหลักฐานจากกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงที่เป็นเส้นทางหลบหนีหลังคนร้ายก่อเหตุ ล่าสุดเจ้าหน้าที่รอเพียงผลการพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากสถาบันนิติเวชและผลการตรวจรหัสพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอของคนร้ายที่ทิ้งร่องรอยไว้ในที่เกิดเหตุ คาดว่าจะทราบผลภายใน 7 วัน หลังจากผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ติดตามจับกุมคนร้ายให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญและประชาชนให้ความสนใจ
พล.ต.ต.ประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับสาเหตุการตายของ น.ส.ศรีประภา หรือน้องฝ้าย สาวเสริ์ฟหน้าตาดี ยืนยันว่ามาจากเรื่องชิงรักหักสวาทเพียงเรื่องเดียว ไม่มีประเด็นอื่นและคนร้ายเป็นคนรู้จักกับผู้ตายอย่างดี ทำให้การคลี่คลายคดีนี้ไม่มีความซับซ้อนแต่อย่างใด ทั้งนี้หลังพบศพได้เชิญนายต้น นามสมมติ แฟนคนปัจจุบันของผู้ตาย มาสอบปากคำเครียดนานหลายชั่วโมง แต่ไม่พบพิรุธ หลังจากนายต้นยืนยันว่าได้คบหากับน้องฝ้ายมาระยะหนึ่ง และมีโครงการจะแต่งงานกันในเร็วๆ นี้เพื่อสร้างครอบครัว
ด้านเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่าบุคคลที่น่าสงสัยมากที่สุดและเข้าข่ายในการก่อเหตุ คือ " นายเค สามกระทาย" อายุประมาณ 30 ปี ชาว อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่สืบทราบว่าเคยคบหากับผู้ตายมานานและได้ทุ่มเทเงินทองและทรัพย์สินจำนวนมากเพื่อมัดใจฝ่ายหญิง แต่เมื่อทราบว่าผู้ตายตีตัวออกห่างกำลังคบหากับผู้ชายคนใหม่และมีแผนจะแต่งงานทำให้เกิดอาการหึงหวงอย่างหนัก ทั้งที่นายเคมีครอบครัว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้น้องฝ้ายพยายามตีตัวออกห่าง โดยก่อนพบศพพยานได้เห็นนายเค ขี่รถจักรยายนต์ฮอนด้า สกู้ปปี้ ไอ พาผู้ตายนั่งซ้อนท้ายมาที่ห้องเช่า จากนั้นก็ไม่มีใครเห็นน้องฝ้าย
กระทั่งหลังพบศพ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็นนายเค ขี่รถจักรยานยนต์สวมเสื้อลายพรางทหาร กางเกงขาสั้น ออกมาจากห้องเช่าด้วยอาการรีบร้อนเพียงคนเดียว จากนั้นนำรถจักรยานยนต์ไปซุกซ่อนในสถานที่แห่งหนึ่ง เพื่อเปลี่ยนเป็นรถเก๋งฮอนด้า แจ๊สสีขาวไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่ใช้เป็นประจำ แต่พบว่าได้วิ่งผ่านถนนเพชรเกษมในพื้นที่ จ.เพชรบุรี และจากการตรวจสอบการใช้เครือข่ายโทรศัพท์มือถือพบว่านายเค ยังติดต่อกับมารดาและพี่สาวที่ อ.กุยบุรี ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามประกบอย่างกระชั้นชิดเพื่อรอหมายจับ พร้อมแจ้งให้พาเข้าให้ปากคำเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ สำหรับพฤติกรรมของนายเค ทราบว่า ได้หายตัวจากพื้นที่ อ.กุยบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ตามปกติหากอาศัยที่บ้านพัก ต.กระทาย จะมีหน้าที่รับส่งบุตรที่โรงเรียนและช่วยภรรยาทำงานค้าขาย