โยงเมียน้อย! คาดรู้เห็นวัฒนาใช้คอนโดวางแผนบึ้ม!!

สอบเครียด 2 เมีย"วัฒนา"มือบึ้ม คาด"บ้านเล็ก"อาจมีส่วนรู้เห็นเหตุฝักใฝ่การเมือง-เลือกข้างชัดเจน คาดใช้คอนโดฯวางแผนก่อนออกปฏิบัติการ ขณะที่ภรรยาหลวงไม่เกี่ยวข้องพร้อมให้การเป็นประโยชน์ จนท.เชื่อ ยังมีคนอื่นร่วมขบวนการอีกหลังให้คัดลายมือกว่าหมื่นคำไม่ตรงกับจม.เตือนระเบิด 3 ฉบับ ด้านทหารสิ้นสงสัยเตรียมส่งตัวให้ ผบ.ตร.สอบเพิ่ม 20 มิ.ย.นี้ พร้อมคุมตัวทำแผน 6 จุด

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจับกุมนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดห้องรับรองข้าราชการบำนาญ หรือห้องวงษ์สุวรรณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และต่อมา นายวัฒนา ยังสารภาพด้วยว่า เป็นผู้ก่อเหตุวางระเบิดที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.ราชดำเนินกลาง หรือกองสลากเก่า และโรงละครแห่งชาติ รวมถึงเหตุระเบิดในปี 2550 เนื่องจากไม่ชอบทหาร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.60 มีรายงานข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงความคืบหน้าการสอบสวนนายวัฒนา ว่า ชุดสืบสวนสอบสวนได้สอบเครียดนายวัฒนา ซึ่งแม้เจ้าตัวจะยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุวางระเบิดป่วน กทม. 6 ครั้ง ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจรัฐบาลทหาร แต่หน่วยงานด้านความมั่นคงยังไม่ทิ้งประเด็นเรื่องบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง เพราะไม่เชื่อว่า นายวัฒนา จะปฏิบัติการได้เพียงลำพัง แม้จะมีความชำนาญด้านอิเล็กทรอนิกส์ไฟฟ้าก็ตาม

สอบ2เมียมือบึ้ม!โยงบ้านเล็กรู้เห็น

รายงานข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคง ระบุว่า จนถึงขณะนี้ได้ควบคุมนายวัฒนา และภรรยาหลวง และภรรยาน้อยหรือสาวคนสนิท ไว้ทำการสอบสวน โดยชุดสืบสวนสอบสวนได้นำตัวบุคคลทั้ง 3 ไปสืบสวนสอบสวนกันคนละที่ เบื้องต้น พบข้อมูลว่าภรรยาน้อย น่าจะมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ เพราะทราบว่า ทุกครั้งที่จะก่อเหตุ นายวัฒนาจะเดินทางไปที่บ้านภรรยาน้อยที่ย่าน จ.นนทบุรี

วางแผนบนคอนโดฯก่อนออกป่วน

"ตอนนี้หน่วยงานด้านความมั่นคง ยังไม่ปักใจเชื่อ 100% ว่านายวัฒนา จะก่อเหตุเพียงคนเดียว แม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญต่อวงจรไฟฟ้า เนื่องจากจบอิเล็กทรอนิกส์ไฟฟ้าโดยตรง จึงมีศักยภาพในการดำเนินการ แต่หน่วยงานความมั่นคงยังไม่ตัดประเด็นนี้ออก โดยเฉพาะการฝักใฝ่การเมือง เนื่องจากภรรยาน้อย ฝักใฝ่การเมือง เลือกข้างชัดเจน และทุกครั้งก่อนก่อเหตุ นายวัฒนา และภรรยาน้อยจะไปหารือที่คอนโดมิเนียมใน จ.นนทบุรี ประเด็นนี้ ทำให้หน่วยงานความมั่นคงเชื่อว่า น่าจะมีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง" แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง กล่าว

"เมียหลวง"ให้การเป็นประโยชน์

ขณะที่ภรรยาหลวง หน่วยงานความมั่นคง สอบสวนแล้วไม่ได้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง แม้อาวุธสงคราม และระเบิดจะถูกตรวจพบที่บ้านภรรยาหลวงย่านรามอินทราก็ตาม นอกจากนี้ จากการสืบประวัติของภรรยาหลวง พบว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานในสำนักงานอดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ดูแลด้านอาหาร ซึ่งพฤติกรรมไม่ได้ฝักใฝ่ทางการเมือง และปัจจุบันเกษียณอายุราชการไปแล้ว อีกทั้ง ภรรยาหลวงยังให้การที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่

รับสิ้นขึ้นรถเมล์บอมบ์กองสลาก

นอกจากนี้ ชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีได้สอบปากคำนายวัฒนา ในบางประเด็นเพิ่มเติม จนเจ้าตัวยอมรับสารภาพเล่าถึงเหตุการณ์ในการเดินทางไปวาง "ไปป์บอมบ์" ที่หน้ากองสลากเก่า โดยนายวัฒนา เล่าว่า ได้ขึ้นรถเมล์จากย่าน กฟผ.บางกรวย จ.นนทบุรี มายัง ถ.ราชดำเนินกลาง ในช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. จากนั้นได้นำไปป์บอมบ์ที่ทำมาวางทิ้งไว้บริเวณโคนต้นไม้ ก่อนจะเดินไปขึ้นรถเมล์ กลับไปยัง กฟผ.อีกครั้ง เพื่อหลบหนี ทำเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งมีพนักงานกวาดขยะของกรุงเทพมหานคร (กทม.) มาเก็บวัตถุระเบิดดังกล่าวไปใส่ถังขยะ จนเกิดเหตุระเบิดขึ้นดังกล่าว

ทั้งนี้ การระเบิดดังกล่าว เป็นไปตามระยะเวลาที่ นายวัฒนา ตั้งหน่วงห้วงเวลาไอซีไทม์เมอร์ด้วยความเชี่ยวชาญไว้ประมาณ 30 นาที ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างเร่งหาพยานหลักฐานมาประกอบสำนวน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่ต้องทำการรวบรวมเพิ่มเติมอีกครั้ง

จับคัดลายมือหมื่นคำ-ไม่ตรงจม.

ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนสอบสวนได้ทำการสอบสวนอย่างมาราธอน ทำให้นายวัฒนาอยู่ในอาการเคร่งเครียด และยืนยันตลอดว่า สาเหตุมาจากความไม่พึงพอใจการทำงานของรัฐบาล อีกทั้งไม่มีแผนก่อเหตุที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในย่านฝั่งธนบุรี เนื่องจากไม่ใช่แนวทางการก่อเหตุ เพราะนายวัฒนายืนยันว่า ต้องการเพียงล้างแค้นกับการกระทำของรัฐบาล และทหารเท่านั้น อีกทั้งยืนยันว่า ก่อเหตุครั้งนี้เพียงลำพัง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากเมื่อนำกระดาษ ปากกา มาให้เขียนข้อความระหว่างการสอบปากคำ ไม่ต่ำกว่าหมื่นคำ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับจดหมายที่มีบุคคลลึกลับ ระบุข้อความแจ้งเตือนเหตุลอบวางระเบิดไปยังสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และสถาบันประสาทวิทยา รวม 3 ฉบับ แล้ว ปรากฎว่า ลายมือที่พบไม่ตรงกัน ทำให้เชื่อว่า มีผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวอย่างแน่นอน แต่นายวัฒนา ยังไม่ยอมซัดทอด

ไล่เช็คเส้นทางการเงิน

ส่วนการตรวจเส้นทางการเงินของนายวัฒนา พบว่า มีบัญชีธนาคารเพียงฉบับเดียว ซึ่งไม่พบสิ่งใดผิดปกติ แต่ทางชุดสืบสวนเชื่อว่า ยังมีบัญชีฉบับอื่นอีก หลังจากนี้ต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ทหารมั่นใจยังมีคนอื่นร่วมก่อเหตุ

ด้าน พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ กล่าวว่า ทางทหารสอบปากคำนายวัฒนา ผู้ถูกกล่าวหาจนหมดข้อสงสัยแล้ว เบื้องต้น นายวัฒนารับสารภาพว่าก่อเหตุระเบิดเพียงคนเดียว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะตลอด 5 ปีที่ผ่านมา คาดว่า จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจ หรือทราบถึงการก่อเหตุอย่างแน่นอน โดยนายวัฒนา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองมาตั้งแต่ปี 2549 แต่เริ่มมีการก่อเหตุในช่วงปี 2550 ล่าสุด ก่อเหตุที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งพยานหลักฐานลักษณะการประกอบระเบิดที่คล้ายกัน มีฐานข้อมูลอยู่แล้ว และนำไปเปรียบเทียบกัน จนพบความเชื่อมโยง

ลุ้น"ศรีวราห์"ออกหมายจับเพิ่ม

"หลังจากนี้หากจะมีการออกหมายจับ หรือเรียกใครเพิ่มเติม ก็จะขึ้นอยู่กับชุดทำงานของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นผู้พิจารณาตามพยานหลักฐาน' พ.อ.บุรินทร์ กล่าว

เตรียมส่งตัวให้ผบ.ตร.-คุมทำแผน

ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า ทหารจากกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ เตรียมคุมตัว นายวัฒนา ส่งให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สอบปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 20 มิ.ย.60 นี้ จากนั้น คาดว่าจะมีการควบคุมตัวไปแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดแต่ละท้องที่ ที่เกิดเหตุระเบิดประมาณ 5-6 จุด เช่น บริเวณหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.ราชดำเนิน หรือกองสลากเก่า, หน้าโรงละครแห่งชาติ และที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นต้น

เปิดวินาทีบึ้ม-สลด!มีแต่ผู้สูงอายุ

วันเดียวกัน มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดวินาทีที่เกิดระเบิดภายในห้องรอรับยาของนายทหารชั้นสัญญาบัตร ซึ่งพบว่า กลุ่มคนไข้และญาติๆ ที่มารอใช้บริการในห้องดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ

ขอบคุณ :::naewna.com