28 เม.ย.ร.ต.ท.ธเนษฐ์ โชติศิริ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.บ้านดุง จ.อุดรธานี รับแจ้งจากนายเดชฤทธิ์ โทหา กำนัลตำบลนาไหมว่า มีคนเสียชีวิตอยู่ที่บ้านย่านบ้านผึ้ง ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี จึงได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.ท.วัฒนา มีทองหลาง รองผกก.สส.สภ.บ้านดุง พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ มิตรศรีจารุกุล สว.สส. ร.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ทองสีเหลือง รอง สว.สส.
พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้นชั้นแรกเป็นปูน ชั้นสองเป็นไม้ พบศพผู้เสียชีวิตอยู่ห้องโถงบนบ้านชั้นสองสภาพศพนอนหงาย ถูกตีด้วยของแข็งเข้าบริเวณศรีษะ มีบาดแผลที่ศรีษะจำนวนหลายแผล ทราบชื่อผู้ตายในเวลาต่อมา คือนายนิมิตร เทพชมพู อายุ 38 ปี ส่วนผู้ต้องหาที่ลงมือใช้ค้อนตีตะปูทุบหัวลูกชายคือนายคำแปลง เทพชมพู อายุ 63 ปี บิดาผู้เสียชีวิต รอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบสวนนายคำแปลง ทราบว่า ผู้ตายคือลูกชายของตนเอง มีนิสัยชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ มานานกว่า 4-5 ปี เมื่อเมาจะทุบทำลายข้าวของ เอะอะโวยวายดุด่าอาละวาดทำร้ายเพื่อนบ้าน ตนเคยแจ้งตำรวจ ให้มาระงับเหตุอยู่บ่อยๆ เป็นที่เอือมระอาของเจ้าหน้าที่และผู้นำในชุมชนและภายในบ้าน ส่วนชั้นล่างของบ้านมีแม่ของนายนิมิตป่วยไม่สบายนอนพักรักษาตัว ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ดื่มเหล้ามาจากการแต่งงานของเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน
จากนั้น ได้มาขอเงินจากตนเพื่อไปซื้อเหล้ามาดื่มต่ออีก ตนไม่มีให้จึงเกิดปากเสียงกัน ลูกชาย เข้าไปเอาปืนแก๊ปออกมาจากห้องมาจี้ที่หัวของตน ตนจึงปัดปืนออกเกิดการต่อสู้กัน โดยตนเหยียบปืนแก๊ปเอาไว้ และคว้าได้ค้อนตีตะปูเหวี่ยงไปทุบที่ศรีษะของนายนิมิตร 3-4 ครั้ง ล้มลงแน่นิ่ง จากนั้น ตนได้เอาลูกปืนแก๊ปถอดออก กลัวลูกจะพื้นมาใช้ปืนยิงตนเอง และได้แจ้งให้เพื่อนบ้านทราบเพื่อช่วยเหลือ ไม่นึกว่าลูกจะเสียชีวิต
หลังจากตรวจที่เกิดเหตุแล้ว ได้ลงบันทึกไว้พร้อมควบคุมตัวนายคำแปลง มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.บ้านดุง พร้อมทั้งได้ปล่อยตัวนายคำแปลงไปชั่วคราวเพื่อให้ไปดำเนินการจัดงานศพของลูกชาย จากนั้น จะได้และควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต