27 เม.ย.60 รายงานข่าวเปิดเผยว่า ทีมสืบสวนสอบสวนได้ข้อมูลหลักฐานสำคัญที่พบว่ามีผู้ต้องสงสัย 2 คนเกี่ยวข้องกับการสังหารนายนิรันดร์นั้น เบื้องต้นพบว่าคือ นายวัชระ หรือน็อต สาแก้ว อายุ 22 ปี กับนายสาทิตย์ หรือหมูหยอง สาแก้ว อายุ 18 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นพี่น้องกันและเป็นคนในพื้นที่อ.เมืองชัยภูมิ โดยพบว่านายสาทิตย์ หรือหมูหยอง เป็นคนลงมือฆ่านายนิรันดร์ แล้วให้นายวัชระ หรือน็อต เป็นคนนำศพไปเผาและฝังอำพรางคดี ส่วนรถเก๋งมิราจนั้นสาทิตย์เป็นคนขับไป
ข่าวแจ้งว่า ล่าสุดทีมสืบสวนได้ควบคุมตัวนายวัชระ หรือน็อต ได้แล้วขณะกบดานตัวอยู่ที่หอพักแม่ปราณี ตั้งอยู่ใกล้บริเวณศาลเจ้าพ่อพระยาแล ต.ในเมืองชัยภูมิ โดยนำตัวไปสอบปากคำที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง โดยพบว่านายวัชระ หรือน็อต มีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ และอยู่ระหว่างการหลบหนีคดี ส่วนสาทิตย์นั้นยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว
จากการสอบสวนนายวัชระ หรือน็อต พบว่านายน็อตมีความสนิทสมนมลึกซึ่งกับผู้ตายมาหลายปี โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการใช้มือถือของผู้ตายพบว่านายน็อตโทรหาผู้ตายตั้งแต่ออกจากกรุงเทพ กระทั่งผู้ตายแยกย้ายกับนายปรีชา เพื่อนสนิทอีกคนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในเมืองชัยภูมิช่วงค่ำวันที่ 8 เม.ย. ได้โทรฯหานายน็อตและนัดเจอกันที่ผับแห่งหนึ่งในเมืองชัยภูมิ
นายวัชระ หรือน็อต ยังให้การว่า หลังจากผับเลิกตอนตี 1 ได้ขับรถออกจากผับ กลับไปที่หอพักแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นนายวัชระกับผู้ตายได้ค้างคืนด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นได้วางแผนแล้วว่าจะฆ่าชิงทรัพย์ผู้ตาย เพราะเห็นว่าผู้ตายพกเงินสดจำนวนมาก มีมือถือ และรถเก๋ง
โดยนายวัชระเปิดประตูให้นายสาทิตย์ น้องชายเข้ามาให้ห้องพัก ซึ่งนายวัชระได้ล็อกคอผู้ตายแล้วให้นายสาทิตย์ เป็นคนจ้วงแทงจนเสียชีวิต จากนั้นได้ใช้ผ้าห่มห่อศพแล้วแบกไปขึ้นรถของผู้ตาย โดยนายวัชระได้นำศพผู้ตายไปเผาแต่ศพไหม้ไม่หมด จึงขับรถบรรทุกศพขับมุ่งหน้าไปยังป่ายูคาท้ายหมู่บ้านหลังวัดบ้านโสกตลับ ต.โคกสูง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ทำการขุดหลุมฝังศพพร้อมป้ายทะเบียนหลักฐานต่างแล้วจุดไฟเผา เพื่อทำลายหลักฐาน แล้วขุดดินกลบแล้วพากันเดินทางกลับมานอนที่หอพัก
ส่วนนายสาทิตย์ได้ขับรถคันของผู้ตายไปตระเวนไปขายตามเต็นท์รถมือสองในเมืองชัยภูมิ แต่ไม่มีใครซื้อ เพราะรถไม่มีแผ่ป้ายทะเบียน ต่อมาจึงขับหลบหนีกลับไปบ้านพักของพ่อแม่ที่อยู่บนเทือกเขาภูแลนคา ในเขต ต.ท่าหินโงม อ.เมืองชัยภูมิ ก่อนจะหลบหนีไปอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตติดต่อสภ.ชัยภูมิประกอบไปด้วย สภ.เกษตรสมบูรณ์ และสภ.ก้งคร้อ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นายปูพรมออกตามจับกุมตัวนายสาทิตย์ หรือหมูหยอง เป็นการด่วนแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้นายสาทิตย์เคยถูกจับในคดีชิงทรัพย์ที่ ในเขตพื้นที่ สภ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ในปี2555 และมาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ที่เขตพื้นสน.อุดมสุข กรุงเทพฯ
นางบัวลี สร้อยสูงเนิน แม่ผู้ตายได้นำพระและญาติพี่น้องมาทำพิธีจุดธุปบวงสรวงดวงวิญญานายนิรันดร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว โดยนางบัวลีกล่าวว่า ตนมีลูกทั้งหมด 2 คน คนเสียชีวิตเป็นลุกคนสุดท้องที่ เป็นความหวังของครอบครัว เพราะเป็นคนเดียวที่ได้รับการศึกษาสูงกว่าลูกๆทั้งหมด ซึ่งปกติลูกชายตนจะเป็นคนร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นที่รักของญาติพี่น้อง และเพิ่งจบการศึกษารับปริญาตรีหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ และเตรียมตัวทำพาสปอร์ตจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ
นางบัวลีกล่าวว่า ยืนยันว่าลูกชายไม่เคยมีปัญหาหรือไปทะเลาะกับใครมาก่อน เชื่อว่าต้องเป็นคนใกล้ตัวที่ทำร้าย มาถึงวันนี้สูญเสียทุกอย่าง สูญเสียเสาหลักครอบครัว อยากให้ตำรวจเอาผิดคนร้ายให้ได้ ตนคาใจที่สุดอยากถามว่า ฆ่าลูกชายตนทำไม มีอะไรถึงต้องฆ่ากันโหดแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครตนไม่ขออาฆาต หรือจองเวร แต่ตนขอให้ไปรับกรรมจากการกระทำโดดยเร็วด้วย