จากกรณีโลกโซเชี่ยลแชร์โพสต์กรณีที่มีผู้ประกันตนรายหนึ่งลื่นล้มหัวฟาดพื้นหมดสติ และเข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง โดยมีค่ารักษาพยาบาลเป็นเงินกว่า 40,000 กว่าบาท ภายในเวลาแค่ 2 ชั่วโมง แม้ว่าทางผู้ประกันตนจะขอย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม แต่ปรากฎว่า รพ.เอกชน ไม่ยอมประสานงานให้ ทำให้ผู้ประกันตนจำเป็นต้องเอาทองขัดไว้ถึง 3 บาท รวมกับเงินอีก 2.1 หมื่นบาท ซึ่งชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปวงกว้าง
ล่าสุด ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลดัง กล่าว ได้ออกมาชี้แจง ถึงประเด็นนี้ ว่า ผู้ป่วยคือ นายเสถียร (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี เข้ารักษาเมื่อเที่ยงคืนวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน สาเหตุจากลื่นล้มในห้องน้ำจนหัวฟาดพื้นหมดสติ จากการตรวจสอบพบมีลิ่มเลือดในสมอง ทางรพ.พยายามช่วยเหลือตามขั้นตอน ต่อมาญาติมีความประสงค์ต้องการเคลื่อนย้ายไปที่ รพ.พญาไทศรีราชา ตามสิทธิ์ประกันสังคม
รพ.จึงช่วยติดต่อประสานให้ทางรพ.พญาไทศรีราชา มารับตัว แต่ญาติผู้ป่วยต้องการเคลื่อนย้ายแบบเร่งด่วน จึงขอใช้รถของ รพ. ซึ่งก็ได้แจ้งแล้วว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จากนั้นทางญาติประสงค์จะเอาทองมามัดจำไว้ เนื่องจากเงินติดตัวไม่พอ เดี๋ยวรุ่งขึ้นจะเอาเงินมาชำระอีกที รพ.ก็รับทราบและดำเนินการให้ ยืนยันว่าค่าใช้จ่ายเป็นไปตามมาตรฐานการรักษา
ขณะเดียวกัน อาการล่าสุดของนายเสถียร ที่รักษาตัวอยูใน รพ.พญาไทศรีราชา ตอนนี้อาการหนักถึงขั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ซึ่งล่าสุดรถกู้ภัยของมูลนิธิแห่งหนึ่ง ได้รับตัวผู้ป่วยออกจาก รพ.ไปแล้ว ทั้งๆที่ยังใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่โดยญาติระบุเพียงว่าต้องการนำตัวกลับไปรักษาที่บ้านเกิด.