บุกห้างจี้อดีตแฟน ตร.ล่าระทึกกรุง ปลํ้าจับได้คาถนน

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 16 ส.ค. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุนนทบุรีได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุคนร้ายเป็นชาย 3 คน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด บุกเข้าไปจี้บังคับจับตัวเจ้าของบูธขายเครื่องสำอางภายในห้างจัสโก้ สาขารัชดาภิเษก เป็นหญิง 2 คนขึ้นรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน สห 4235 กรุงเทพมหานคร ใช้เส้นทางถนนรัชดาภิเษกตัดเข้าถนนวิภาวดีรังสิต เลี้ยวขวาเข้าถนนงามวงศ์วาน มุ่งหน้าแยกแคราย เขตพื้นที่ สภ.อ.เมืองนนทบุรี ขอให้ช่วยสกัดจับด้วย

ได้มีการตามสกัดตามโรงแรมม่ารูดต่าง ๆ

หลังได้รับการประสานจากศูนย์วิทยุ 191 ทางพ.ต.ท.สิริวัฒน์ ดีพอ สวป.สภ.อ.เมืองนนทบุรี ได้วิทยุสั่งการให้ตำรวจสายตรวจทุกนายเข้าประจำจุดสกัดจับตามเส้นทางต่างๆ รวมทั้งกระจายกำลังตรวจสอบตามโรงแรมม่านรูดในพื้นที่ ปรากฏว่า จ.ส.ต.ประเทียน พลเมือง และ ส.ต.อ.ราเชษฐ์ หมัดระหิน ตำรวจสายตรวจพบผู้เสียหาย 1 ใน 2 ราย ยืนหน้าตาตื่นอยู่หน้าทางเข้าโรงแรมอมรอินน์ ถนนติวานนท์ จึงเข้าไปสอบถาม ทราบชื่อ น.ส.จุรีพร แซ่ลิ้ม อายุ 29 ปี ระบุว่าน้องสาวคือ น.ส.วันเพ็ญ แซ่ลิ้ม อายุ 27 ปี น้องสาว ถูกคนร้ายบังคับขับรถพาเข้าไปในโรงแรมดังกล่าว จึงรีบวิทยุแจ้งกำลังมาสนับสนุนปิดล้อมโรงแรมดังกล่าวทันที

แต่รถเก๋งของคนร้ายไม่ยอมจำนนง่ายๆ กลับวิ่งย้อนสวนทางออกมาพยายามพุ่งฝ่าวงล้อมของตำรวจออกไปทางแยกแคราย ถูกยิงสกัดยางล้อทั้ง 4 ด้านจนแบนติดถนนวิ่งต่อไปไม่ได้ คนร้ายซึ่งเหลืออยู่ภายในรถเพียงคนเดียวยอมปล่อยตัว น.ส.วันเพ็ญลงจากรถ ส่วนคนร้ายทราบชื่อภายหลังคือนายไอศูรย์ พุทธปัญญารังษี อายุ 29 ปี ใช้ปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์จ่อใต้คางตัวเอง ขู่ห้ามไม่ให้ตำรวจเข้ามาจับกุม จากนั้นก็ลงจากรถเดินเท้าไปถึงสี่แยกแครายเลี้ยวเข้าถนนงามวงศ์วาน เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรชั่วคราว เพราะเกรงจะเกิดอันตราย

ทาง ร.ต.อ.ยอดยิ่ง ธรรมนิธา รอง สว.จร.สภ.อ. เมืองนนทบุรี ตัดสินใจขี่รถ จยย.เข้าไปประกบเจรจา

ว่าจะพาไปส่งตามที่ต้องการ นายไอศูรย์ยอมตกลงกระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถ จยย.ของ ร.ต.อ.ยอดยิ่งไปตามถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้าแยกบางเขน โดยมีกำลังตำรวจกว่า 50 นายไล่ตามไปติดๆ กระทั่งรถ จยย.ของ ร.ต.อ.ยอดยิ่งมาถึงฝั่งตรงข้ามเรือนจำกลางคลองเปรม เป็นจังหวะที่นายไอศูรย์ เผลอลดปืนจากคอตัวเอง ร.ต.อ.ยอดยิ่งกับ พ.ต.ท.ศิริวัฒน์จึงฉวยจังหวะดังกล่าวพุ่งชาร์จแย่งปืนจากมือนายไอศูรย์ ปืนเกิดลั่นขึ้น 1 นัด กระสุนเฉี่ยวริมฝีปาก พ.ต.ท. ศิริวัฒน์เป็นแผลฉีกขาด ต้องนำส่ง รพ.นนทเวชเย็บ 4 เข็ม ส่วนนายไอศูรย์ถูกนำตัวกลับไปสอบปากคำที่ สภ.อ. เมืองนนทบุรี สาขารัตนาธิเบศร์

จากการสอบสวน น.ส.วันเพ็ญระบุว่า

เคยคบหาเป็นแฟนกับผู้ต้องหารายนี้มาระยะหนึ่ง ต่อมาเกิดมีปัญหากัน จึงบอกตัดสัมพันธ์ สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ต้องหาเป็นอย่างมาก ถึงขั้นบุกทำร้ายบาดเจ็บมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่ติดใจเอาความ จนกระทั่งวันเกิดเหตุ นายไอศูรย์กับพวกอีก 2 คน ไม่ทราบชื่อ บุกเข้าไปในบูธขายเครื่องสำอางในห้างจัสโก้ สาขารัชดาภิเษก ชักปืนออกมาขู่ตนกับพี่สาวบังคับพามาขึ้นรถเก๋งของตัวเองในลานจอดรถขับหนีเข้ามาในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยให้เพื่อนอีก 2 คนกับพี่สาวลงรถที่หน้าทางเข้าโรงแรมก่อนจะขับรถต่อเข้าไปในโรงแรม โชคดีตำรวจยกกำลังมาช่วยทันเวลา ครั้งนี้ยืนยันจะขอดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ด้านนายไอศูรย์ผู้ต้องหายอมรับว่าก่อเหตุจริง

โดยชวนเพื่อนอีก 2 คนมาช่วยลงมือ หลังก่อเหตุได้แยกย้ายกันหนีไป ตั้งใจแค่ว่าจะเจรจาปรับความเข้าใจ ไม่คิดทำร้าย หรือข่มขืน ส่วนที่ต้องพกปืนมาด้วยนั้นเพราะเกรงว่าพี่เขยของ น.ส.วันเพ็ญซึ่งเป็นตำรวจจะเข้ามาทำร้ายตามที่เคยข่มขู่เอาไว้ ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายใคร อย่างไร ก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว มีและใช้อาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อสู้ขัดขวางการจับกุม และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ คุมตัวนายไอศูรย์ไว้ดำเนินคดี รวมทั้งจะได้ติดตามตัวเพื่อนของผู้ต้องหาอีก 2 คนมาดำเนินคดีข้อหาเดียวกันต่อไป