กลกามอินเตอร์เน็ต แฉภัยไอ้หื่นแช็ตลวง ขืนใจ-ฉกมือถือสาว

ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องสำหรับภัยร้ายที่แฝงมาทางอินเตอร์เน็ต

ไม่ว่าจะเป็นแก๊ง 18 มงกุฎตุ๋นเหยื่อ พวกล่อลวงทางเพศไปจนถึงพวกอาศัยอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางหากินอย่างผิดกฎหมาย

ใครตกเป็นเหยื่อมีแต่ความเสียหาย

ถึงแม้อินเตอร์เน็ตจะมีประโยชน์ แต่ก็มีโทษสำหรับผู้ใช้เช่นกัน หากใครคนนั้นหลงเชื่อคนในโลกไซเบอร์ที่แฝงเข้ามาล่าเหยื่อทางหน้าจอคอมพิวเตอร์

เสียรู้กันมานักต่อนัก!!

เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวกว่า 20 ราย ที่ถูกนายเอกชัย สีมาไพศาล อายุ 29 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 39/22 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตอบข้อมูลข่าวสารทางโทรศัพท์ (บั๊ก 1113) แช็ตล่อลวงหญิงสาวมาร่วมหลับนอน ก่อนจะฉวยโอกาสตอนเหยื่อเผลอฉกมือถือและเงินสดหลบหนีไป

แต่สุดท้ายก็ถูกจับกุมจนได้

นายเอกชัยใช้แผนเหนือเมฆออกอาละวาดทางอินเตอร์เน็ตมานานแล้ว วิธีการของมันจะเข้าไปในเว็บไซต์ sanook.com แล้วเข้าไปในห้องแช็ตรวม จากนั้นจะเลือกห้องที่มีวัยรุ่นซึ่งเป็นผู้หญิงใช้บริการมากๆ อย่าง "ห้องมหาลัย" เพราะส่วนใหญ่จะมีแต่นักศึกษาเข้าไปเล่นแช็ตกันในห้องนี้

โดยนายเอกชัยจะเปลี่ยนชื่อในการสนทนาไปเรื่อยๆ

อาทิ work_man หรือ Ciber Shot ลงข้อความเชิญชวนหญิงสาวให้มาร่วมหลับนอน โดยจะมีเงินเป็นค่าตอบแทนให้ ใช้ข้อความชักชวนเช่น "เงินเดือนออกแล้วน้องสาวคนไหนที่เดือดร้อนเรื่องเงินสนใจเข้ามาคุยได้ครับ" ซึ่งที่ผ่านมามีเหยื่อพลาดท่าให้มันแล้วหลายราย

เสียทั้งตัว สูญทั้งทรัพย์สินไปตามๆ กัน

แต่แล้วห้วงเวลาทำชั่วของนายเอกชัยก็ต้องหมดลงจนได้ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา นายเอกชัยลวงเหยื่อสาวรายหนึ่งมาหลับนอนที่โรงแรม 39 แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร ซึ่งหลังจากเสร็จกิจขณะที่เหยื่อสาวขอตัวเข้าห้องน้ำ นายเอกชัยได้ฉวยโอกาสขโมยโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าตังค์ของเธอเหมือนทุกครั้ง แต่ทว่าโทรศัพท์เครื่องนั้นได้ผูกกระดิ่งเอาไว้ ทำให้เจ้าของได้ยินเสียงจึงรีบออกจากห้องน้ำวิ่งไล่ตามนายเอกชัยออกไปทัน ร้องตะโกนเรียกให้บ๋อยช่วยกันจับกุมตัวเอาไว้ได้

จิ้งจอกสังคมจนมุมอยู่ตรงนั้น!!

หลังได้ตัวนายเอกชัยแล้ว พ.ต.ต.ปณิธาน ยามานนท์ สว.สส. สน.สำราญราษฎร์ นำตัวหมอนี่มาสอบปากคำ ก่อนรายงานผลให้พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น. พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รองผบช.น. และพ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น. 6 รับทราบ นำตัวคนร้ายออกแถลงข่าวให้สังคมได้เห็นโฉมหน้ามัน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถตามยึดโทรศัพท์มือถือที่ขโมยมาจากเหยื่อได้ถึง 18 เครื่อง ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมที่มันเอาไปเร่ขายในกลุ่มเพื่อนอีกนับ 10 เครื่อง

โทรศัพท์เหล่านี้ได้มาจากการลวงเหยื่อล้วนๆ

นายเอกชัยก้มหน้าสารภาพว่า ทำแบบนี้มานานร่วม 2 ปีแล้ว ตอนแรกอยากลองเล่นดู ไม่ได้หวังลักทรัพย์ แต่พอลงมือแล้วสำเร็จก็ชอบจึงทำเรื่อยมา โดยจะเล่นอินเตอร์เน็ตตามร้านเน็ตคาเฟ่ หาเหยื่อทางอินเตอร์เน็ตไปเรื่อยๆ เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนอีเมล์บ่อยครั้ง เพื่อไม่ให้เหยื่อจำได้ วัตถุประสงค์ส่วนใหญ่คือการได้ร่วมหลับนอนและฉวยโอกาสขโมยโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าตังค์ทีเผลอ จะเริ่มลงมือช่วงวันหยุดงาน โดยก่อนนัดเจอจะหลอกถามเหยื่อว่าใช้มือถือรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ดูว่ามีราคาหรือไม่ หากเหยื่อใช้โทรศัพท์ดีๆ ราคาแพง ก็จะให้เหยื่อส่งรูปมาให้ดู ถ้าหน้าตาพอใช้ได้ก็จะนัดเจอและล่อลวงไปข่มขืนตามโรงแรมม่านรูด ซึ่งใช้บริการที่โรงแรม 39 แห่งนี้เป็นประจำ บางวันลงมือติดต่อกันถึง 2 ราย

เช้า 1 เย็นอีก 1 ได้ทั้งตัว ได้ทั้งทรัพย์สิน

สำหรับวิธีการลวงเหยื่อเมื่อมีผู้หญิงติดต่อมาแล้ว นายเอกชัยจะให้อีเมล์และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเป็นการส่วนตัวเพื่อพูดคุยตกลงราคากัน หรือไม่ก็เข้าไปเล่นแช็ตในโปรแกรมเอ็มเอสเอ็นแล้วนัดเจอกันตามสถานที่ต่างๆ ก่อนจะจบลงด้วยการมีเพศสัมพันธ์กันในโรงแรม ซึ่งเหยื่อบางรายนายเอกชัยเล่าว่าแค่คุยกันครั้งแรกก็ยอมนอนด้วยอย่างง่ายดาย แต่บางรายก็ไม่ยอม เจอกันไม่พอใจก็แยกทางกันไป

ตำรวจเช็กอีเมล์ที่นายเอกชัยได้จากการแช็ตกับสาวๆ

พบว่ามีมากมายเกือบ 300 เมล์ ที่ผ่านมามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้ว 7 ราย มีบางรายไม่ได้ถูกลวงไปข่มขืนชิงทรัพย์ แต่ถูกนายเอกชัยวิ่งราวโทรศัพท์มือถือไปดื้อๆ ขณะกำลังเดินคุยโทรศัพท์อยู่ เหยื่อจำหน้าได้เลยมาชี้ตัวดำเนินคดี ซึ่งคดีนี้พนักงานสอบสวนต้องแยกทำสำนวนแบบต่างกรรมต่างวาระ เนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และก็มีจำนวนไม่น้อยที่ไม่กล้าแจ้งความเนื่องจากเกิดความอับอาย เลยทำให้คนร้ายย่ามใจก่อเหตุเรื่อยมา

ยิ่งมีผู้เสียหายมากโทษก็จะยิ่งเพิ่มมากตามมา

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาลักทรัพย์และรับของโจร ส่วนจะมีข้อหาข่มขืนกระทำชำเราด้วยหรือไม่คงต้องรอเจ้าทุกข์เดินทางมาแจ้งความเสียก่อน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังขยายผลด้วยว่านายเอกชัยเป็นพวกชอบถ่ายคลิปโทรศัพท์เก็บไว้หรือไม่ เพราะเป็นคนชอบเล่นโทรศัพท์เป็นชีวิตจิตใจ

ถ้ามีก็คงต้องโดนดำเนินคดีเพิ่มอีกข้อหา!?

นอกจากพฤติกรรมของตนเองแล้ว นายเอกชัยยังให้การด้วยว่า ยังมีผู้ชายอีกหลายคนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ชอบหลอกผู้หญิงมาหลับนอนแล้วฉกทรัพย์ไป

ซึ่งเรื่องนี้พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น. ได้ออกมากล่าวเตือนบรรดาสาวๆ ทั้งหลายว่า

อย่าได้หลงเชื่อคนเหล่านี้ และอย่าไว้ใจคนในอินเตอร์เน็ต ดีไม่ดีอาจถูกลวงไปข่มขืนหรือฆ่าชิงทรัพย์ได้ ตัวอย่างมีให้เห็นแล้วมากมาย ส่วนคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ก็ขอให้เลิกปฏิบัติ หากจับได้จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

พวกนี้ปล่อยไว้เป็นอันตรายต่อสังคม