ต่อมา ดร.พฤฒิไกร ไกรพิพัฒน์ อายุ 86 ปี พ่อของนายพิสิฐพลเดินเข้ามาเพื่อเข้าพูดคุยกับลูกชาย ทำให้นายพิสิฐพลถึงกับร้องไห้ พร้อมกล่าวขอโทษกับการกระของตนพร้อมก้มลงกราบเท้าพ่อ
ดร.พฤฒิไกร กล่าวว่า พ่ออยากรู้ความจริงทำไมลูกถึงทำแบบนี้กับน้อง ทำเพื่ออะไร พ่อแม่รักลูกไม่เท่าเทียมกันหรืออย่างไร นายพิสิฐพลถึงกับสะอื้นร้องไห้ กล่าวคำขอโทษพร้อมก้มลงกราบเท้าและลุกขึ้นเดินกลับขึ้นรถตู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
ดร.พฤฒิไกร กล่าวต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ลูกเป็นที่ 1 ของรุ่นไปเรียนสหรัฐอเมริกา เป็น 1 ด้านวิชาการ พอผิดหวังเรื่องผู้หญิง ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ในด้านคดีไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก เพราะมีทั้งพยานบุคคลและภาพจากกล้องวงจรปิดและคำรับสารภาพของผู้ต้องหา จึงต้องนำตัวมาชี้ที่เกิดเหตุเพื่อดูว่ามีความสอดคล้องกันกับคำรับสารภาพหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดก็สอดคล้องกัน ส่วนสาเหตุนั้นมาจากเรื่องส่วนตัว ความขัดแย้งในเรื่องการบริหารภายในโรงเรียน และปัญหาภายในครอบครัว ซึ่งตัวผู้ต้องหาเองยอมรับว่าเขาโมโหเอง ที่เหยียดหยาม พยายามจะพูดทักทายคุยด้วยก็ไม่ยอมคุย จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว โดยในวันที่ 20 ส.ค. เวลา 10.00 น. จะนำตัวนายพิสิฐพลไปฝากขังที่ศาลพระโขนงต่อไป