อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร นำตัวเด็กหญิงเอ นามสมมติ อายุ 14 ปี อยู่ ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่การรถไฟสถานีรถไฟหลังสวนว่า มีเด็กหญิงวัย 14 ปี ตกจากตู้โดยสารรถไฟสายนครศรีฯ-กทม. ขณะที่รถไฟวิ่งผ่านจากสถานีควนหินมุ้ย ต.นาขา อ.หลังสวน เข้าสู่ พื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก และไม่ทราบชะตากรรมว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร อีกทั้งจุดที่พลัดตกลงไป เป็นป่าริมทางรถไฟที่มืดสนิท และห่างไกลบ้านเรือนของชาวบ้าน ตั้งแต่ช่วงเวลา 20.30 น. วันที่ 2 มิ.ย.
ดญ.14 อยากให้ยายนอนสบาย ลุกไปนั่งข้างบันได-พลัดตกรถไฟ ระดมค้นเจอเลือดท่วมตัว
พบว่า ร่างของ ดญ.เอ มีเลือดไหลท่วมทั้งตัว หายใจรวยรินสลับกับอาการสลบไม่รู้สึกตัว ที่บริเวณศีรษะมีบาดแผลขนาดใหญ่หลายแผล เลือดไหลออกจำนวนมาก หลังจากให้การปฐมพยาบาล จึงนำตัวส่ง รพ.ทุ่งตะโก พบว่าที่ข้อมือด้านขวากระดูกแตกหัก และบาดแผลที่ศีรษะหลายแผล จึงต้องนำตัวส่ง รพ.ชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์ ดญ.เอ ยังรู้สึกตัวในบางครั้ง สามารถเล่าเรื่องได้พอจับใจความได้
นายพงษ์ศักดิ์ บุญสุข สารวัตรงานเดินรถแขวงชุมพรเป็นตัวแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย เดินทางมาเยี่ยมเพื่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมเปิดเผยว่าเด็กหญิงเอ ได้ขึ้นรถไฟขบวนที่ 174 คันที่ 9 เลขที่นั่ง 44 และ45 มากับ นางมะลิทอง เนาวรังสี อายุ 48 ปี ผู้เป็นยาย โดยออกเดินทางจากจังหวัดนครศรีธรรมราช เวลา 13.00 น. ปลายทางจังหวัดราชบุรี เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ เห็นยายหลับบนที่นั่ง ด้วยความอยากให้ยายนอนสบาย ไม่ต้องเบียดกับตัวเอง จึงเดินออกมานั่งใกล้กับบันไดของตู้โดยสารรถไฟแล้วเผลอหลับไป จึงทำให้พลัดตกจากรถไฟ ขณะนี้อาการปลอดภัยดี แต่แพทย์ยังต้องคอยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยายของ ด.ญ.เอ ได้ลงจากขบวนรถไฟที่ สถานีชุมพรได้รับการช่วยเหลือจาก จนท.การรถไฟให้ไป ดูแล ด.ญ.เอ แล้ว