เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 พฤษภาคม 2559 พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง ผบก.ปส.1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัด นำโดย พ.ต.ท.พิบูลสุขญ์ รติเวโรจน์กุล สวป.สน.บางพลัด และเจ้าหน้าที่ทหาร ชป.พท.ร.9 พัน 3 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กทม. ลักษณะเป็นบ้านหรู มีรั้วรอบขอบชิด ก่อนร่วมกันจับกุมตัว น.ส.อัสริลณ์ หรืออัส จิตตะเสวีย์ อายุ 58 ปี พร้อมด้วยของกลางต้นกัญชาจำนวน 21 ต้น ซึ่งปลูกอยู่ในกระถางต้นไม้จำนวน 21 กระถาง ภายในบ้านหลังดังกล่าว
พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่า ภายในบ้านหลังดังกล่าว มีการลักลอบเสพยาเสพติด และปลูกต้นกัญชาไว้ภายในบ้านจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้นำกำลังเดินทางไปยังบ้านดังกล่าว เมื่อไปถึงพบ น.ส.กานต์นิธิ หรือมิ้น ปัจฉิมสวัสดิ์ พร้อมกับพวก ซึ่งอยู่ในบ้านดังกล่าว โดยในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วขอเข้าทำการตรวจค้นพร้อมเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่ 9 กองพันทหารราบที่ 3 ตรวจค้นโดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 มาตรา 44 และคำสั่ง คชส.ที่ 13/59 จากนั้น น.ส.กานต์นิธิ จึงได้เปิดประตูรั้วบ้านให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าไปตรวจค้น
พล.ต.ท.เรวัช กล่าวอีกว่า ขณะตรวจค้น พบว่า น.ส.กานต์นิธิ มีพิรุธ แสดงอาการตื่นตกใจ เหงื่อออกเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงสอบถาม ก่อนจะยอมรับสารภาพว่า ได้เสพยาไอซ์และกัญชาเข้าไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น ซึ่งจากการตรวจค้นภายในบริเวณบ้านเจ้าหน้าที่พบของกลางต้นกัญชาปลูกใส่กระถางต้นไม้ จำนวน 21 กระถาง และมี น.ส.อัสริลณ์ ที่เป็นมารดาของ น.ส.กานต์นิธิ อยู่ในบ้านด้วย เมื่อสอบถามก็รับว่าต้นกัญชาทั้งหมดเป็นของตัวเอง และเมื่อคืนที่ผ่านมาเพิ่งจะเสพกัญชาไป หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการควบคุมตัว น.ส.อัสริลณ์ และ น.ส.กานต์นิธิ มาที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ก่อนนำตัวส่งไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายที่ รพ.ชลประทาน โดยผลการตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย ของ น.ส.อัสริลณ์ กับ น.ส.กานต์นิธิ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า"ผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมายและเสพกัญชา" จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณ>>nationtv.tv