สนช.เห็นชอบลดโทษประหารหญิงมีครรภ์เหลือคุกตลอดชีวิต

มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน สนช.ทำหน้าที่ประธาน โดยที่ประชุมได้พิจารณา ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ....) พ.ศ... (วิธีการขังหรือจำคุก และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่เป็นหญิงมีครรภ์) ซึ่งมีเนื้อหาสำคัญ คือ ปรับปรุงแก้ไขวิธีการขังและจำคุกหญิงมีครรภ์ให้เหมาะสมกับสภาพ รวมทั้งเปลี่ยนบทลงโทษจากประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต เพื่อให้บุตรได้รับการเลี้ยงดูจากมารดา โดยมาตรา 5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 256 แห่งประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความอาญา ที่ระบุลักษณะของบุคคลที่ได้รับโทษจำคุกที่ให้อำนาจศาลมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้จนกว่าเหตุอันควรจะทุเลาลงไป โดยหญิงมีครรภ์ที่คลอดบุตรแล้วยังไม่ถึง 1 ปี คณะกรรมาธิการฯได้แก้ไขระยะเวลาเป็น 3 ปี และจำเลยต้องเลี้ยงดูบุตร

ซึ่งเป็นมาตราที่เกี่ยวกับการลงโทษหญิงมีครรภ์ ที่เดิมระบุว่า หญิงมีครรภ์ที่ต้องโทษประหารชีวิต ให้รอไว้จนพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่คลอดบุตรแล้วให้ประหารชีวิต แต่ทางคณะกรรมาธิการได้แก้ไขให้พ้นกำหนด 3 ปี และลดโทษประหารชีวิตลดลงเหลือจำคุกตลอดชีวิต พร้อมทั้งเพิ่มข้อความอีกว่า ในระหว่าง 3 ปี นับแต่คลอดบุตรให้จำเลยเลี้ยงดูบุตรตามความเหมาะสมในสถานที่ที่สมควรแก่การเลี้ยงดูบุตรภายในเรือนจำ

นอกจากนี้คณะกรรมาธิการฯ

ยังได้เพิ่มมาตรา 7 ขึ้น ที่มีข้อความว่า บทบัญญัติมาตรา 257 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ไม่ใช้บังคับแก่การขอรับพระราชทานอภัยโทษและการขอรับพระราชทานเปลี่ยนโทษหนักเป็นเบาหรือลดโทษ ที่ได้มีการถวายเรื่องราวหรือคำแนะนำต่อพระมหากษัตริย์แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และมาตรา 8 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตตินี้ ทั้งนี้ที่ประชุมสนช.ได้ลงมติเห็นชอบวาระ 2 และ 3 ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ 81 เสียง