นศ.สาวมธ.คอหักดับ เพื่อนหนุ่มคนขับ-เจ็บ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.20 น. วานนี้ (11 มิ.ย.) พ.ต.ท.โรจนฤทธิ์ โรจนวิศวกรรม พงส.สบ 3 สภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ทำหน้าที่สารวัตรเวรสอบสวน สน.ทางด่วน 2 (บางพูน)

รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทางด่วน 2 ว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์ตกทางด่วนปากเกร็ด-บางปะอิน (ขาออก) มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหลัก กม.ที่ 16+300 D หมู่ 6 ต.สวนพริกไทย อ.เมืองปทุมธานี จึงพร้อมด้วย พญ.อรุณี สิงห์เสน่ห์ แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางราบลงจากทางด่วน

ก่อนถึงด่านเก็บเงินเชียงราก 1.5 กม. บนถนนพบรอยเบรกตั้งแต่ เลนขวาสุด จนมาถึงเลนซ้ายเป็นแนวยาว รั้วตาข่ายเหล็กกั้นทางด่วนพังเสียหายไป 7 ช่อง ห่างจากถนน 60 เมตร พบรถเก๋งออดี้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน พห 718 กรุงเทพมหานคร

พังยับเป็นเศษเหล็กอยู่ใต้ต้นมะขามเทศขนาดใหญ่ข้างสะพานข้ามคลองชลประทาน (คึกฤทธิ์) ห่างจากซากรถราว 15 เมตร บนถนนลูกรังหน้าบ้านเลขที่ 19 หมู่ 4 ต.บางพูด อ.เมืองปทุมธานี พบศพ

- น.ส.ณัฐธิดา โชตินันท์ อายุ 22 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 250 หมู่ 4 ซอยประชาอุทิศ 33 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาวลายทางสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำรัดรูป แพทย์ชันสูตรพบคอหัก กรามหัก แขนขาหัก

ส่วนผู้บาดเจ็บ และเป็นคนขับทราบชื่อ

- นายอรรถพล สกุลรัตนศักดิ์ อายุ 22 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 132 ซอยประชาอุทิศ 33 แขวงและเขตเดียวกัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯรีบนำส่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ตรวจสอบซากรถพบว่า ยางล้อหน้าขวาหลุดออกจากล้อแม็ก ชิ้นส่วนของรถแตกกระจัดกระจายเกลื่อน โดยเฉพาะกันชนหลังกระเด็นไปค้างอยู่บนต้นมะขามเทศ

ตรวจค้นหลักฐานในที่เกิดเหตุพบเอกสารหลักฐานของ

นายอรรถพล และ น.ส.ณัฐธิดา ระบุว่า ทั้ง 2 คน ที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ (ภาคภาษาอังกฤษ) สาขาวิทยาศาสตร์ การจัดการ ชั้นปีที่ 4 จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

สอบปากคำนายสวัสดิ์ เขียวแก้ว อายุ 66 ปี

เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เปิดเป็นร้านขายของชำ ให้การว่า ขณะนั่งอยู่หน้าร้านได้ยินเสียงรถเบรกจากนั้นก็มีเสียงโครม เมื่อหันไปมองก็เห็นรถเก๋งคันดังกล่าวตีลังกา 2-3 ตลบก่อนจะไปหยุดสงบนิ่งใต้ต้นมะขามเทศข้างสะพานข้ามคลอง ระหว่างที่รถพลิกคว่ำมีร่างหญิงสาวกระเด็นออกมานอกรถและเสียชีวิตทันที

ส่วนคนขับปีนออกมาจากซากรถที่พังยับด้วยอาการเหม่อลอย มีเลือดไหลที่หางคิ้วขวาเล็กน้อย มองหาเพื่อนสาว และพูดว่า เพื่อนผมไปไหน ตนและหลานชายรีบเข้าไปประคองตัวมา และเมื่อชายหนุ่มเห็นศพเพื่อนสาวถึงกับร่ำไห้ว่า ผมไม่น่าพาเพื่อนมาตายเลย ก่อนจะเป็นลมล้มฟุบไป จึงรีบแจ้งตำรวจและกู้ภัยมารับตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาล

ต่อมามีนายดุสิต โชตินันท์ อายุ 60 ปี

และนางกมลรัตน์ โชตินันท์ อายุ 52 ปี พ่อแม่ของ น.ส.ณัฐธิดา และญาติๆเดินทางมาที่เกิดเหตุ ทันทีที่ทั้งคู่เห็นสภาพศพลูกสาวถึงกับปล่อยโฮ โดยเฉพาะนางกมลรัตน์ผู้เป็นแม่ โผเข้ากอดศพลูกสาวร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ ก่อนเป็นลมหมดสติ ญาติรีบนำตัวออกมาปฐมพยาบาลและปลอบใจ

จากการสอบปากคำนายดุสิตพ่อของ น.ส.ณัฐธิดาให้การกับพนักงานสอบสวนว่า ตนเป็นอดีตพนักงานบริษัท ส่วนภรรยารับราชการครู เหตุการณ์ครั้งนี้เสียใจมากเพราะมีลูกสาวเพียงคนเดียว และเรียนอยู่ปีสุดท้ายใกล้จะจบแล้ว เหลืออีกเพียงวิชาเดียวก็จะได้รับปริญญาตามที่ฝันไว้

ปกติลูกสาวจะต้องมาเรียนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ รังสิต โดยขับรถยนต์มาเองทุกวัน ก่อนเกิดเหตุเมื่อเช้าตนเตรียมสตาร์ตเครื่องรถยนต์ให้แล้ว แต่ลูกสาวบอกว่าวันนี้จะไม่ขับรถไปเพราะเพื่อนจะมารับ จากนั้นก็ขึ้นรถมากับนายอรรถพล กระทั่งได้รับแจ้งจากตำรวจว่าลูกสาวประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

พ.ต.ท.โรจนฤทธิ์ โรจนวิศวกรรม เจ้าของคดี เปิดเผยว่า

เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้ขับขี่ขับรถมาด้วยความเร็วสูง ระหว่างนั้นยางล้อหน้าขวาเกิดแตกทำให้รถเสียหลักคนขับคงตกใจจึงรีบเบรกกะทันหันทำให้รถพลิกคว่ำตีลังกาหลายตลบ อย่างไรก็ตาม จะรอสอบปากคำคนขับอีกครั้ง ก่อนตั้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ