นศ.สาว-พริตตี้กว่าครึ่งร้อย แจ้งจับหนุ่มโมเดลลิ่งเก๊ หลอกถ่ายแบบ-ขึ้นเว็บหาคู่
อายุระหว่าง 20-30 ปี จำนวน 50 คน เดินทางมายังโรงพักเพื่อขอแจ้งความเอาผิดกกับ ชายอ้างตัวเป็นโมเดลลิ่งไทยแลนด์ (the modelling Thailand) หลอกนักศึกษาถ่ายภาพ อ้างว่าเพื่อนำไปคัดตัวเป็นดารา นางแบบ ขึ้นเฟซบุ๊ก ในกลุ่มบริษัทคัดหาคน โดยมีเหล่านักศึกษาที่หลงเชื่อในไลน์ กลุ่ม พากันแห่ไปสมัครมากกว่า 170 คน สุดท้าย ผู้ต้องหา นำภาพและชื่อของนักศึกษา และพริตตี้ที่หลงเชื่อ ขึ้นในเฟซบุ๊กหาคู่ พูดคุยให้กับชาวต่างชาติ เรียกเก็บเงินค่าเข้าชมและพูดคุยดัวย รายละ 3,000 บาท ผ่านทางบัตรเครดิต ส่วนนักศึกษาจะถูกหลอกจ่ายเงินมาถ่ายแบบหัวละ 1,000 บาท ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในมหาวิทยาลัยดังเชียงใหม่ และศูนย์การค้าย่านถนนห้วยแก้ว อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อได้รูป ชื่อที่อยู่ ไลน์ เฟซบุ๊ก แล้ว ก็จะนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กหาคู่กับชาวต่างประเทศที่สนใจ
โดยทางตำรวจต้องเปิดห้องประชุมชั้น 3 เพื่อรับแจ้งความ และเก็บเอกสารที่กลุ่มนักศึกษา และพริตตี้ นำมาแจ้งความ โดยกลุ่มนักศึกษาได้ทยอยเดินทางกันมาแจ้งความเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง กลุ่มนักศึกษาที่เสียหาย น้องกระต่าย (นามสมมติ) เปิดเผยว่า ตอนแรก กลุ่มพวกตนจะมีไลน์กลุ่มกัน และผู้ต้องหา ชื่อ นายแอล หรือชื่อจริงชื่อ นายสุวรรณวิทย์ วงค์ใหญ่ อายุ 27 ปี คนไทย ใช้ชื่อจริง นามสกุลจริงในเฟซบุ๊ก โดยนายแอล ได้สร้างกลุ่มไลน์ ขึ้นมา ชื่อ "The modelling" และได้ชักชวนหญิงสาวเข้ามา พร้อมบอกไอดีไลน์ของนายแอลด้วย ซึ่งก็มีนักศึกษาสาวหลายสถาบันหลงเชื่อ เข้ามาในกลุ่มไลน์ของนายแอล ถึง 170 คน และนายแอล ก็ประกาศหากนักศึกษาคนใดต้องการที่จะถ่ายแบบ ถ่ายวิดีโอ ตามสถานที่ต่างๆ มีค่าตัว อายุระหว่าง 20-30 ปี หน้าตาสวย สดใส ก็ให้ติดต่อมายังนายแอล พร้อมนำบัตรประชาชนมาด้วย
จากภาพของนักศึกษาที่นายแอลนำขึ้นเว็บ ก็จะติดต่อหาตัวดารา นางแบบ คัดตัว และติดต่อมายังนายแอล นายแอลก็จะติดต่อมายังตนเองอีกที โดยหากนักศึกษาท่านใดสนใจ หรือทำงานเป็นพริตตี้อยู่แล้ว ก็ให้ติดต่อกลับมาทางไลน์ของนายแอล ซึ่งเมื่อมีนักศึกษาที่หลงเชื่ออยากได้เงิน ก็จะไปให้นายแอลกับเพื่อนถ่ายแบบ ตามสถานที่ต่างๆ เช่นในสถาบันที่มีชื่อเสียงย่านถนนห้วยแก้ว อ.เมืองเชียงใหม่ หรือตามศูนย์การค้า ดัง ย่านถนนห้วยแก้ว และจะจ่ายเงินให้กับนักศึกษา หรือพริตตี้ ที่มาถ่ายแบบครั้งละ 1,000 บาท
นศ.สาว-พริตตี้กว่าครึ่งร้อย แจ้งจับหนุ่มโมเดลลิ่งเก๊ หลอกถ่ายแบบ
โดยเขาบอกว่า เขาเข้าไปในเฟซบุ๊กหาคู่ มีชื่อตนและหน้าตน จึงอยากรู้จักพูดคุยและหาคู่ โดยเป็นชาวต่างชาติแถบยุโรป เขายอมเสียเงินจำนวน 3,000 บาท เพื่อเสียค่าธรรมเนียมเข้าไปพูดคุยกับตนทางเฟซบุ๊กหาคู่ ที่นายแอลกับพวกทำขึ้นมา และจัดการพูดตอบโต้กับชาวต่างประเทศคนนั้นๆ เอง ชาวต่างชาติคนดังกล่าวจึงได้ค้นหาจนมาเจอเฟซบุ๊กของตนและได้สอบถามว่า ตนต้องการค้าประเวณี หรือต้อการงหาคู่หรือไม่ ตนตกใจมาก จึงได้ปฏิเสธไป
นายแอล ได้ปฏิเสธ และไม่ยอมรับผิดชอบ อ้างว่าได้ทำกล่องบันทึกความจำของโน๊ตบุ๊กหายไป ช่วงเอาโน๊ตบุ๊กไปซ่อม และมีผู้ไม่หวังดีเอาภาพและชื่อของนักศึกษาไปกระทำแบบนั้น ตนไม่เชื่อได้ตรวจสอบไปยังเพื่อนฝูงนักศึกษาด้วยกัน ก็พบว่า ถูกกระทำเหมือนกันหมด และมาเอะใจ ช่วงที่ถ่ายแบบ นายแอล ยังให้พวกตน ระบุชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งก็เพื่อเป็นเฟซบุ๊กหาคู่ จึงแน่ใจว่า ต้องเป็นการกระทำของนายแอลแน่
ถูกหลอกเอาภาพชื่อ ให้นายแอล ไปกระทำที่ไม่ถูกต้อง นายแอลจะนัดนักศึกษาที่หลงเชื่อให้ไปเจอกันที่ ศูนย์การค้าดังๆ ย่านถนนห้วยแก้วบ้าง หรือไม่ก็ในสถาบันการศึกษาชื่อดัง หรือสวนสาธารณะ เพื่อทำการบันทึกภาพนิ่ง และวิดีโอ โดยจะมีช่างภาพที่นายแอล จ้างมา ชื่อ นายสุเมฆ อินทรหะ อายุ 35 ปี มาถ่ายภาพนิ่ง และนายแอล ก็จะทำตัวเหมือนกับเป็นผู้กำกับ นางแบบ ให้แอคชั่น ท่าต่างๆ โดยจะนัดวันเสาร์-อาทิตย์ และนัดมาที่ละ 10 คน หรือไม่ก็มากกว่านั้น แล้วแต่ จะถ่ายทำกัน ชนิดว่าทั้งวัน เลยก็ว่าได้ ค่าตัวหัวละ 1,000 บาท
จะแจ้งในข้อกล่าวหา "กระทำการผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำภาพชื่อ ผู้เสียหายไปกระทำการอันเป็นเท็จ ทำให้เสื่อมเสียและอับอายต่อสาธารณชน" และตนทราบมาอีกว่า เมื่อวันก่อน นายสุเมฆ อินทรหะ ช่างภาพที่นายแอล จ้างมานั้น ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจเหมือนกัน ว่าถูกหลอก ให้มาทำการบันทึกภาพ โดยไม่ได้ทราบวัตถุประสงค์ ซึ่งทางตำรวจก็รับเอาเป็นคดีความแล้วเช่นกัน
โดยทำทีปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้ และนำตัวมาสอบปากคำ และทำประวัติอย่างละเอียด โดยนายสุวรรณวิทย์ หรือ แอล นั้นได้ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ตนเองเป็นแค่ตัวกลาง และไม่ได้หลอกกลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้แต่อย่างใด
และยังคงทยอยเดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้นำหลักฐานมาด้วย โดยเป็นภาพจากในเฟซบุ๊ก ในเว็บไซต์หาคู่ รวมทั้งการติดต่อทางไลน์ กลุ่มของนายแอล มามอบให้กับตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับนายแอลต่อไป
เนื่องจากว่าการถ่ายภาพได้รับงานจากเอเจนซี่ ซึ่งเป็นชาวยูเครนให้หาสาวงามมาถ่ายภาพ เพื่อที่จะนำไปหางานซึ่งทุกครั้งที่ถ่ายภาพเสร็จ ทางนายทุนที่เป็นชาวยูเครนก็จะนำแฮนดี้ไดรฟ์มาก๊อปปี้รูปไปทั้งหมด พร้อมขอให้ทางโมเดลลิ่งถ่ายภาพวิดีโอตอนถ่ายแบบไว้ทุกครั้งพร้อมถ่ายสำเนาบัตรประชาชนไว้ด้วย ตนก็ทำตามนั้น ตนไม่ได้หลอกลวง ตนเป็นตัวกลาง